รี้ด เทรดเด็กซ์ มั่นใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโต เตรียมจับมือพันธมิตรญี่ปุ่นจัดงาน Mfair จับคู่ธุรกิจชิ้นส่วน ฟุ้งผู้ประกอบการแดนปลาดิบตบเท้าร่วมงานกว่า 400 ราย คาดสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในงาน 4 วัน 8 พันล้านบาท

บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด โดยนายสุทธิศักดิ์ วิลานันท์ รองกรรมผู้จัดการ ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือกับ
บริษัท แฟ็กทอรี เน็ตเวิร์ก เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด โดย มร. อะทสึชิ คิตามูระ ผู้จัดการทั่วไป
นายสุทธิศักดิ์ วิลานันท์ รองกรรมผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด ผู้จัดงานนิทรรศการและการประชุมรายใหญ่ เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในตอนนี้เติบโตลดลง เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากระทบไม่ว่าจะเป็น การเมือง, นโยบายรัฐฯอาทิ รถคันแรก, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง อย่างไรก็ตามประเมินว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น เพราะตอนนี้มีความชัดเจนทางด้านการเมือง และมีโรดแมปออกมา ทำให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเริ่มเดินหน้า และคาดว่าดีมานด์จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า
ขณะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณที่ดี ก็จะทำให้ไทยได้รับอานิสงส์ด้านการส่งออก โดยบริษัทประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีหน้าจะเติบโตและมียอดผลิต 2.5 ล้านคัน
นายสุทธิศักดิ์กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นฐานการผลิตรถยนต์หลายยี่ห้อ และมีการส่งออกไปทั่วโลก นอกจากนั้นแล้วยังมีความพร้อมด้านผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพ โดยจากผลสำรวจในต่างประเทศพบว่าไทยเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจในด้านการลง ทุนมากกว่าอินโดนีเซียและอินเดีย
"แม้ไทยจะมีประชากรน้อยกว่าอินโดนีเซียที่กำลังเป็นดาวรุ่งในกลุ่ม อุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ความแข็งแกร่งของไทยคือ การเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก โดยส่งกลับไปยังประเทศผู้ผลิตอย่างญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้นยังมีความพร้อมด้านผู้ผลิตชิ้นส่วนและด้านโลจิสติกส์ ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าไทยได้เปรียบกว่าอินโดนีเซียที่มีภูมิประเทศเป็นเกาะ"
นายสุทธิศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัทจึงได้มีการจับมือกับพันธมิตรจากญี่ปุ่น บริษัท แฟ็กทอรี เน็ตเวิร์ก เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FNA เพื่อจัดงาน Mfair งานจับคู่ทางธุรกิจสำหรับนักอุตสาหกรรมแห่งภาคพื้นเอเชีย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานแมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2015 มหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยี เพื่ออุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งคัน
สำหรับงานดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักธุรกิจเอสเอ็มอีชาวญี่ปุ่น ที่จะเข้าร่วมงานมากกว่า 400 รายจากอุตสาหกรรมการผลิตกว่า 7 สาขา อาทิ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็คทรอนิคส์ โดยตั้งเป้าหมายการจัดงานในครั้งนี้ว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจและมีเม็ดเงิน สะพัดกว่า 8 พันล้านบาท ขณะเดียวกันจะนำรูปแบบการจัดงานในไทยเข้าไปจัดในประเทศต่างๆอาทิ เวียดนาม, อินโดนีเซีย และพม่า โดยจะเริ่มรุกไปยังอาเซียนในปี 2559
"เดิมเราจัดงานมาต่อเนื่องกว่า 29 ปี แต่ในปีนี้พิเศษกว่าทุกปีเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้จับมือกับพันธมิตรจาก ญี่ปุ่น ที่จะมาช่วยสร้างความแข็งแกร่งของการจัดงานแฟร์ รวมไปถึงยังเป็นการอำนวยความสะดวกในการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ ไทยและญี่ปุ่น ซึ่งจะนำไปสู่การเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยในอนาคตข้างหน้า โดยเราประเมินว่าในงานจะมีบายเออร์เข้ามาชมงานประมาณ 5 หมื่นราย และคาดว่าในจำนวนนี้ 1 หมื่นรายจะต่อยอดและเกิดการซื้อขายภายในงาน"
นายนาโอกิ อิโนอุเอะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟ็กทอรี เน็ตเวิร์ก เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FNA เปิดเผยว่า กลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นในปัจจุบันให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะไทยเพราะเป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อส่งออกที่สำคัญ ของนักลงทุนญี่ปุ่น และได้มีการขยายฐานการผลิตในญี่ปุ่นมายังไทยแล้วหลายราย โดยยังมีนักลงทุนญี่ปุ่นอีกเป็นจำนวนมาก ที่มองหาโอกาสเพื่อพบปะพันธมิตร ซัพพลายเออร์รายใหม่ และการต่อยอดทางธุรกิจในไทย
"ความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตในไทยยังคงเติบโต จากจำนวนผู้ผลิตร่วม 2 พันราย มีผู้ผลิตแบบ OEM มากกว่า 700 ราย ที่สำคัญกลุ่มผู้ผลิตรถรายใหญ่ของญี่ปุ่นล้วนแต่เข้ามาเปิดโรงงานผลิตชิ้น ส่วนขึ้นในไทยแล้วทุกราย รวมไปถึงผู้ผลิตระดับโลกที่มาเปิดโรงงานเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าของตน ขณะที่สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นยอมรับว่า ชิ้นส่วนที่ผลิตในไทยมีคุณภาพดีที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยในไลน์ประกอบรถปิกอัพมีการใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตภายในประเทศไทย 80 - 90% และ 70% สำหรับไลน์รถยนต์นั่ง จึงถือว่าไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของญี่ปุ่น"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,991 วันที่ 12 - 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557