สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

พึ่งคสช.อุ้มอุตฯรับช่วงผลิต
12/07/2014
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเริ่มโง่หัว หลังซบเซาจากโครงการรถคันแรก ตั้งเป้าปีนี้โต 5% หวังได้อานิสงส์บริโภคในประเทศฟื้นตัว ส่วนปีหน้าขยับขึ้นที่ 10 % จากการรุกจับคู่ธุรกิจกับเอสเอ็มอีญี่ปุ่น ผลิตสินค้ากว่า 5 พันรายการ แนะคสช.ช่วยเหลือด้านต้นทุนวัตถุดิบในประเทศสูงกว่าเพื่อนบ้าน ขยายเวลาไม่เก็บภาษีนำเข้าเหล็กโลหะผสมใช้ผลิตแม่พิมพ์ชิ้นส่วน

นายสมเกียรติ ชูพรรคเจริญ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงทิศทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตว่า ขณะนี้ภาพรวมของการรับช่วงการผลิตเริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้างแล้ว จากที่ซบเซาหลังจากโครงการรถยนต์คันแรงสิ้นสุดลง โดยเฉพาะการรับช่วงผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 65% ของสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด 340 บริษัท ใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต เริ่มมีคำสั่งผลิตเพิ่มมากขึ้นแล้ว เพราะได้อานิสงส์จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ประกอบกับชาวนาได้รับเงินจากการจำนำข้าว ส่งผลให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

โดยคาดการณ์ 6 เดือนหลังจากนี้ไป การรับช่วงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์น่าจะกลับมาเติบโตได้ประมาณ 5% จากที่เคยเติบโตจากโครงการรถยนต์คันแรก 30-40 % ที่จะเกิดจากความเชื่อมั่นของการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก แต่ต้องยอมรับว่ากำลังการผลิตที่เหลือนี้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ประกอบการรับช่วงผลิตต้องปิดกิจการไปแล้ว 4-5 ราย ซึ่งถือว่าไม่มาก

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหา จะทำให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ ทางผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวในการออกไปหางานในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับทางกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีใน 2 จังหวัดของญี่ปุ่นไปแล้ว และในเร็วๆนี้ จะมีการลงนามเอ็มโอยูอีก 1 จังหวัด เพื่อส่งเสริมการจับคู่ทางธุรกิจ ร่วมทุนระหว่างเอสเอ็มอีไทยและเอสเอ็มอีญี่ปุ่น และหาพันธมิตรเพื่อขยายเทคโนโลยีการผลิตสูงขึ้น ร่วมทั้งส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนของสองประเทศ

ทั้งนี้ จากการหารือในช่วงที่ผ่านมาความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้ก่อให้เกิดการผลิตสินค้ากว่า 5 พันรายการ ซึ่งจะครอบคุลมทั้งกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะ กลุ่มผู้ลิตชิ้นส่วนพลาสติก และยาง กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จากการร่วมมือกันนี้เอง และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี น่าจะทำให้อุตสาหกรรมการรับช่วงการผลิตของไทยในปีหน้าน่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10 %

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การจะให้อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของไทย ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น คงต้องมาจากการผลักดันของภาครัฐให้เกิดความเชื่อมโยงในแต่ละธุรกิจ โดยเฉพาะการผลักดันในเกิดสภาธุรกิจเอสเอ็มอีขึ้นมา เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีไปข้างหน้าได้

นอกจากนี้ ต้องได้รับการสนับสนุนจากคสช.ที่จะให้การรับช่วงผลิตแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ยังมีราคาสูงอยู่ โดยเฉพาะเหล็กแผ่น ที่มาใช้สำหรับการผลิตชิ้นส่วน ถูกตั้งกำแพงภาษีหรือมีมาตรการตอบโตการทุ่มตลาด เพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ จากการนำเข้าเหล็กแผ่น ทำให้ผู้ประกอบการรับช่วงผลิตต้องซื้อเหล็กแผ่นในประเทศในราคาที่สูง ซึ่งคสช.ควรจะมาพิจารณาในส่วนนี้ โดยเฉพาะการพิจารณาขยายเวลาไม่เก็บภาษีนำเข้าในส่วนของเหล็กโลหะผสมที่นำมาผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนออกไปจากที่จะสิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้

อีกทั้ง ยังได้รับผลกระทบจากค่าแรง 300 บาทต่อวัน ถือเป็นต้นทุนการผลิตที่สูง เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีมีผลใช้บังคับ ก็จะส่งผลให้สินค้าที่ผลิตได้แข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ลำบาก ดังนั้น คสช.ควรจะเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้น ที่จะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ทางหนึ่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,964 วันที่ 10 - 12 กรกฎาคม  พ.ศ. 2557

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.