
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในภาคเอกชนของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 9.1% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. มาอยู่ที่ 8.513 แสนล้านเยน
นักเศรษศาสตร์คาดว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมอุตสาหกรรมการต่อเรือและสาธารณูปโภคที่มีความผันผวนสูงนั้น ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรถือเป็นดัชนีชี้วัดการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของภาคเอกชน
รายงานระบุว่า ยอดสั่งซื้อทั้งหมดซึ่งรวมไปถึงยอดสั่งซื้อจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 34.8% แตะที่ 3.126 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลเมื่อเดือน เม.ย. 2548 อันเนื่องมาจากยอดสั่งซื้อล็อตใหญ่ที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 หมื่นล้านเยน
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ปรับทบทวนการคาดการณ์ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ โดยระบุว่ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หากแยกเป็นประเภทอุตสาหกรรมพบว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของภาคการผลิตในเดือน เม.ย.ลดลง 9.4% จากเดือน มี.ค. แตะที่ 3.484 แสนล้านเยน ในขณะที่ยอดสั่งซื้อจากนอกภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.9% แตะที่ 5.195 แสนล้านเยน
สำหรับอุปสงค์เครื่องจักรของญี่ปุ่นจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการส่งออก พุ่งขึ้นแตะ 71.3% แตะที่ 1.6148 ล้านล้านเยนอันเนื่องมาจากการมูลค่าการสั่งซื้อในปริมาณที่สูง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--