สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

'สุพันธุ์" รับหนักใจนั่งประธาน ส.อ.ท.ช่วงเกิดรอยร้าว
11/04/2014
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

สุพันธุ์"กวาดคะแนนเสียง ขึ้นเป็นประธาน ส.อ.ท.ท่ามกลางการฟ้องร้องของคู่แข่งต่อศาลปกครอง เตรียมเปิดไต่สวนฉุกเฉิน 11 เม.ย.2557 นี้ ระบุหนักใจเป็นประธานช่วงเกิดรอยร้าวทั้งระดับการเมืองประเทศและรอยร้าวใน ส.อ.ท. พร้อมดึงบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทยเป็นที่ปรึกษาเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร

สุพันธุ์ มงคลสุธี มั่นใจ SYNEX อนาคตสดเหมาะลงทุนยาว

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ผลการประชุมเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.ในวันที่ 8 เม.ย. 2557 ปรากฏว่าตัวเองได้คะแนนเสียงหมดจาก 348 คะแนน ให้ทำหน้าที่เป็นประธาน ส.อ.ท.คนใหม่แทนนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผลที่หมดวาระงานลงไป โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.2557 ไปจนถึงปี 2559

โดยได้กำหนดเป้าหมายนำพา ส.อ.ท.และภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ตามยุทธศาสตร์ 4 ข้อ ได้แก่ 1.การสร้างความเป็นเอกภาพของสมาชิก 2.เป็นองค์กรที่ธรรมาภิบาลที่ดี 3.ผลักดันไทยเป็นผู้นำและศูนย์กลางอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียนและ 4.พัฒนาบุคลลากรและปรับโครงสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้สมัครประธาน ส.อ.ท.ที่ได้คะแนนน้อยกว่าและคณะอนุกรรมการนับคะแนนการเลือกตั้ง  ฟ้องร้องต่อศาลปกครองว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใสและศาลปกครองได้นัดคู่กรณี ไต่สวนฉุกเฉินในวันที่ 11 เม.ย. 2557 นั้น เห็นว่าไม่เกี่ยวกับตัวเอง เนื่องจากเป็นการฟ้องร้องกระบวนการเลือกตั้ง ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเป็นคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งเท่านั้น

อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลผลการตัดสินของศาล เนื่องจากที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้จัดการเลือกตั้งในลักษณะหลายขั้นตอนมาโดยตลอดทุกสมัย ซึ่งผู้ฟ้องร้องน่าจะเข้าใจดีและน่าจะเป็นการฟ้องร้องเพื่อแก้เกี้ยวหลังจากแพ้การเลือกตั้งมากกว่า

นอกจากนี้ ตัวเองได้พยายามแก้ไขปัญหารอยร้าวใน ส.อ.ท.ด้วยการเชิญกลุ่มผู้ได้คะแนนเสียงน้อยกว่ามาร่วมเป็นกรรมการด้วย โดยเฉพาะนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รองประธาน ส.อ.ท.ผู้ชิงตำแหน่งเข้ามาเป็นที่ปรึกษาประธานด้วยแล้วและเชื่อว่าภายหลังจากดำเนินนโยบายปรับโครงสร้างองค์กรจะทำให้ความแตกแยกในองค์กรเกิดความสมานฉันท์ได้อีกครั้ง อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ส.อ.ท. มากขึ้น จะเชิญบริษัทเอกชนรายใหญ่ อาทิ กลุ่มเอสซีจี ซีพี ปตท.และไทยเบฟ เป็นต้น เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการกำหนดนโยบายของ ส.อ.ท. รวมถึงเป็นที่ปรึกษาช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ด้วย

ทั้งนี้ยอมรับว่าหนักใจในการเข้ามารับตำแหน่งในช่วงที่การเมืองประเทศไม่สงบและเกิดความขัดแย้งภายใน ส.อ.ท. เองแต่จำเป็นต้องเข้ามารับหน้าที่เพื่อปรับกลไกและโครงสร้างองค์กรให้สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ส่วนสถานการณ์การเมืองในประเทศนั้นมองว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากการแต่งตั้งนายกมาตรา 7 หรือเลือกตั้งก็ได้ทั้งนั้นหากฟากการเมืองทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ ปัญหาการเมืองในขณะนี้ก็จะจบลงได้ แต่ถ้าเกิดการยอมรับเพียงข้างเดียวปัญหาก็จะยืดเยื้อออกไป

อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสถานภาพของการเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนว่าจะออกมาในรูปแบบใด ทั้งนี้เห็นว่าหากสถานการณ์วิกฤติทางภาคเอกชนจะต้องรวมกันอย่างเป็นปึกแผ่นเพื่อเสนอทางออกของปัญหาเมืองอีกครั้งต่อไป

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.