สมาคมวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกต์แห่งประเทศไทย (สวคท.) ร่วมกับบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เล็งเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดประกวดโครงการ "รางวัลความคิดริเริ่มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 6" ภายใต้แนวคิด "FROM MICRO TO MACRO" เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาส่งผลงานวิจัยเข้าประกวด โดยเป็นโครงการวิจัยที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และสามารถนำไปต่อยอดการใช้งานได้จริงในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ
จิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนได้แสดงออกถึงศักยภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ของไทย รวมถึงเป็นการส่งเสริมการคิดค้น สร้างสรรค์ผลงานวิจัยพัฒนาให้ยั่งยืน ก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตเคมีภัณฑ์ เพื่อให้การใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างคุ้มค่ามากที่สุด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผศ.ดร.พิษณุ ตู้จินดา หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยีเคมีชีวภาพ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ดำเนินงานโครงการ กล่าวว่าโครงการความคิดริเริ่มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ STISA เป็นโครงการที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งแต่ละปีได้รับความสำเร็จดีเยี่ยม ปีนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมการประกวดจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มาถึง 3 เท่า ด้วยความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ เวทีนี้เป็นเสมือนเวทีที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เยาวชนเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพด้วยการคิดแบบนอกกรอบ พัฒนาทักษะการประยุกต์เทคโนโลยีเพื่อการใช้งานจริง ตลอดจนสามารถสร้างแผนธุรกิจเชิงพาณิชย์ ซึ่งประยุกต์จากผลงานวิจัยของตนเองได้ เป็นการต่อยอดผลงานของตนเองต่อไป
ในปีนี้มีผลงานวิจัยเข้าร่วมประกวด จากทีมนิสิตนักศึกษา 13 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ มากถึง 87 โครงการ ซึ่งมี 4 ทีม ที่ร่วมกันคว้ารางวัลดีเด่น ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 50,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นระดับปริญญาตรี 2 รางวัล และระดับปริญญาโท 2 รางวัล
รางวัลดีเด่นอันดับ 1 มูลค่า 50,000 บาท ระดับปริญญาตรี จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ผลงานวิจัยเรื่อง การเก็บเกี่ยวพลังงานจากการสั่นสะเทือนโดยใช้เพียโซบัชเชอร์สำหรับการติดตามสภาพเครื่องจักร (Vibration Energy Harvesting using a Piezo Buzzer for Machine Condition Monitoring) จาก ทีมยาคุมัง นักศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ สาขาวิศวกรรมการวัดและควบคุม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกอบด้วย นายฐาปนันท์ สุธาวิยางกูร นายเฉลิมชัย จงสินทวี และนางสาวบุลพร สุกใส โดยมี ดร.ดอน อิศรากร และ อ.สองเมือง นันทขว้าง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
การคิดค้นพัฒนาอุปกรณ์เก็บเกี่ยวพลังงานจากการสั่นสะเทือนโดยใช้ "เพียโซอิเล็กทริก" ในการเปลี่ยนพลังงานและการสั่นสะเทือนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แทนการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานแบบเดิมที่ใช้ในการติดตามสภาพของเครื่องจักรในปัจจุบัน นอกจากนี้การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บเกี่ยวได้มาเป็นแหล่งพลังงานแก่ระบบติดตามสภาพเครื่องจักร สามารถลดระยะเวลาและแรงงานในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของระบบติดตามสภาพเครื่องจักรได้ รวมถึงยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการลดปริมาณขยะแบตเตอรี่ที่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
อีกผลงานดีเด่นเป็นผลงานวิจัยเรื่อง การศึกษาการผลิตชาสมุนไพรว่านชักมดลูกสำเร็จรูปโดยใช้เทคโนโลยีสีเขียว จาก ทีมแชมป์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประกอบด้วย นายศราวุฒิ อัศวเดชมงคล และนายเหมราช บำรุงพืช โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวรรณ์ ยศวัฒน และ Dr. Mohammad Naghi Eshtiaghi เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
การศึกษาการผลิตชาสมุนไพรว่านชักมดลูกสำเร็จรูปโดยใช้เทคโนโลยีสีเขียว เป็นวิธีการสกัดที่ดีที่สุด เนื่องจากสารออกฤทธิ์ชีวภาพได้มากที่สุดโดยใช้เวลาการสกัดน้อยสุดเพียง 30 นาที รวมทั้งได้ชาสมุนไพรผงที่มีคุณสมบัติมีสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ สารฟีนอลิก สารฟลาโวนอยด์ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และสารเคอร์คิวมิน ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งวิธีนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากใช้น้ำเป็นตัวทำละลายในการสกัด สามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ต่อไป
รางวัลดีเด่นอันดับ 2 มูลค่า 50,000 บาท ระดับปริญญาโท จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานวิจัยเรื่อง ระบบวัดและประเมินผลเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง (%DRC) ในน้ำยางแบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automated Measurement and Evaluation System of Dry Rubber Content (%DRC) in Natural Rubber Latex) จาก ทีมยางจุงเบยภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย นายประเสริฐ ศรประสิทธิ์นายปรินทร แจ้งทวีและนายกฤชพล นิตินัยวินิจ โดยมีอาจารย์ ดร.คเณศ วงษ์ระวี และ รศ.ชูชาติ ธรรมเจริญ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
ผลงานชิ้นนี้เป็นการศึกษาเพื่อออกแบบและพัฒนาเครื่องประเมินเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง (%DRC) ในน้ำยางดิบแบบกึ่งอัตโนมัติ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับพ่อค้าผู้ซื้อน้ำยางและอุตสาหกรรมยางโดยเฉพาะ โดยใช้สมบัติเชิงแสง (ความขุ่น) ของน้ำยางในการวัดซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณของเนื้อยาง ซึ่งเป็นสารแขวนลอยอยู่ในน้ำยาง เครื่องมือที่พัฒนาขึ้นใช้เวลาในการคำนวณผลน้อยกว่า 30 วินาที เร็วกว่าการวิเคราะห์โดยใช้วิธีการอบแห้งด้วยเตาไมโครเวฟ 6.8 เท่า และมีความแม่นยำสูง (SD = 0.16% transmission) สามารถวัดตัวอย่างโดยตรงโดยไม่ต้องปรับความเข้มข้นของยางดิบ ส่งผลให้เกษตรกรและผู้ซื้อน้ำยางทำงานได้อย่างรวดเร็ว
อีกเรื่องเป็นผลงานวิจัยเรื่อง การประยุกต์ใช้ P450 ในการบำบัดสารพิษยาปราบวัชพืช (Application of P450 for Detoxification of Herbicide) จาก ทีม The Cleaner นักศึกษาสถานวิจัยจีโนมและชีวสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย นางสาว สุรีพร นวลแก้ว นายธเนศ ปานรัตน์ นางสาว อลิษา หนักแก้ว โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.อมรรัตน์ พงศ์ดารา และ รศ.ดร.วิไลวรรณ โชติเกียรติ
การศึกษาการใช้เครื่องมือชีวสารสนเทศ เพื่อค้นหาชีวโมเลกุลชนิดต่างๆ จากฐานข้อมูลจีโนม (Genome) และทรานสคริปโทม (Transcriptome) โดยแสดงตัวอย่างคือการค้นหาและโคลนยีน EgP450 จากห้องสมุด EST ของปาล์มน้ำมัน ใช้ Molecular Modeling จำลองโครงสร้างสามมิติของ Eg P450 แล้วนำไปทำ Molecular Docking Simulation เพื่อสุ่มหา (Screening) ว่า Eg P450 จะสามารถจับกับสารพิษได้แก่สารปราบวัชพืชใดได้บ้าง ในที่สุดสามารถคาดเดาว่าเป็น Isoproturon และเพื่อเป็นการยืนยันความแม่นยำของผลสรุปดังกล่าว จึงได้ทดสอบสมบัติทางชีวเคมีของ Eg P450 ที่ผลิตในห้องปฏิบัติการชีวภาพ ซึ่งก็ปรากฏว่า Eg P450 สามารถลดความเป็นพิษของ Isoproturon ได้จริง ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้คือ ได้วิธีการที่ประหยัด รวดเร็ว มีประสิทธิภาพในการค้นหาและผลิตชีวโมเลกุลที่มีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษ.