สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เครื่องสาวไหมขนาดเล็ก... สำหรับเกษตรกรรายย่อย
24/07/2013
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

การผลิตผ้าไหมให้มีคุณภาพ ต้องใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพดี ผ้าไหมที่ทอออกมาจึงจะมีคุณภาพและสวยงามตามที่ต้องการ ซึ่งการได้มาซึ่งเส้นไหมที่มีคุณภาพนั้น ต้องขึ้นอยู่กับขั้นตอนการสาวไหมเป็นสำคัญ ดังนั้นการใช้เทคนิคการสาวไหมและเครื่องสาวไหมที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการสาวไหมที่ให้ได้ทั้งในด้านปริมาณ และคุณภาพจึงเป็นเรื่องจำเป็น

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีแนวโน้มลดลงทุกปี กรมหม่อนไหม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง นอกจากจะส่งเสริมและอนุรักษ์อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม รวมถึงการทอผ้าไหมไทยให้มีความยั่งยืน จนสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรได้แล้ว ยังได้ศึกษาวิจัยและพัฒนาเครื่องสาวไหมขนาดเล็กให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการสาวไหม

ด้าน นายวรพจน์ รักสังข์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา กรมหม่อนไหม กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูล พบว่า เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมส่วนใหญ่เลี้ยงรุ่นละ 1 แผ่น ได้รังไหมประมาณ 10 กิโลกรัม และต้องสาวไหมให้เสร็จภายใน 5 วัน ทำให้ไม่สามารถสาวไหมขนาดเส้นเล็กได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา

ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว กรมหม่อนไหม จึงได้ประดิษฐ์ เครื่องสาวไหมขนาดเล็กสำหรับเกษตรกรรายย่อย ขึ้น โดยการนำเครื่องสาวไหมเด่นชัย 3 ตัวมาประกอบรวมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสาวและกรอเส้นไหมให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน รวมทั้งได้เส้นไหมที่มีคุณภาพและปริมาณมากขึ้น ส่วนอ่างสาวไหมทำจากถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรตัดแบ่งแนวยาวโดยหนึ่งในสามของด้านฝา ใช้เตาแก๊สควบคุมอุณหภูมิในอ่างสาวไหม ทำงานร่วมกับเครื่องกรอเส้นไหมเส้นรอบวง 1.50 เมตร ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเครื่องกรอเส้นไหม โดยใช้มู่เล่ (pulley)ทดสอบจนเหลือความเร็ว 37 รอบต่อนาที หรือ 55.5 เมตรต่อนาที แล้วจึงทดสอบสาวเส้นไหมหลาย ๆขนาด รวมถึงทดสอบคุณภาพเส้นไหม

ในระยะแรกของการพัฒนา ใช้ผู้สาวไหม 2 คน ทดสอบการสาวไหมกับไหมพันธุ์ไทยลูกผสมรังเหลือง โดยเวลา 3 ชั่วโมงสาวเส้นไหมได้ประมาณ 300 กรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพรังไหมและขนาดเส้นไหมที่ต้องการสาว โดยใช้ผู้สาวไหม 2 คน มีเปอร์เซ็นต์เส้นไหมที่สาวได้ 20-30 เปอร์เซ็นต์จากรังแห้ง ตรวจสอบคุณภาพเส้นไหมตามมาตรฐานเส้นไหมไทย มกษ 8000 คุณภาพ คะแนน 77–90 คะแนน ต่อมาได้มีการปรับปรุงมาใช้มอเตอร์และใช้ผู้สาวไหมเพียง 1 คน โดยใช้วิธีการทดสอบและเวลาเท่าเดิม ปริมาณเส้นไหมที่ได้ก็เท่าเดิม แต่การสาวโดยใช้มอเตอร์เปอร์เซ็นต์เส้นไหมที่สาวได้เพิ่มขึ้นเป็น 26–40 เปอร์เซ็นต์จากรังแห้ง ตรวจสอบคุณภาพเส้นไหมตามมาตรฐานเส้นไหมไทย มกษ 8000 คุณภาพ คะแนน 70–100 คะแนน

เครื่องสาวไหมขนาดเล็กนี้ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ และเป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกรรายย่อย ในการเพิ่มปริมาณการสาวไหมในแต่ละวัน ช่วยลดจำนวนคน ประหยัดงบประมาณในการผลิต และยังประหยัดเวลา รวมทั้งยังสามารถควบคุมคุณภาพเส้นไหมได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายเส้นไหมได้ราคาดี ตลอดจนคุณภาพของผ้าไหมที่ทอออกมาก็มีคุณภาพดีด้วย.

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.