
นางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดบีโอไอที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ที่ประชุมได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการขนาดใหญ่จำนวน 10 โครงการ เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 28,541.17 ล้านบาท โดยเฉพาะกิจการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล และศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ทั้งนี้ บีโอไอได้ตั้งเป้ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ 1,600 โครงการ เงินลงทุน 1.4 ล้านล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ได้อนุมัติไปแล้วกว่า 700 โครงการ เงินทุนรวม 1.1 แสนล้านบาท โดยคาดว่าโครงการที่บีโอไออนุมัติแล้วตั้งแต่ปี 2557 และในปีนี้จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2559 ซึ่งจะทำให้การลงทุนของเอกชนเข้มแข็งขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกำหนดกิจการเป้าหมาย 13 กลุ่ม ครอบคลุม 61 กิจการย่อย อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตร ประมง อุตสาหกรรมยานยนต์ การท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้สิทธิประโยชน์สูงสุด พร้อมผ่อนปรนหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยจะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และลดหย่อนภาษีเงินได้ประมาณ 50% เพิ่มอีก 5 ปี รวมถึงสามารถใช้เครื่องจักรใช้แล้วจากต่างประเทศ
นางหิรัญญา กล่าวว่า บีโอไอตั้งเป้าส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ให้ได้ 1,600 โครงการ เงินลงทุนรวม 1.4 ล้านล้านบาท โดยช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ อนุมัติโครงการไปแล้วกว่า 700 โครงการ จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในช่วง 3 เดือนแรกเพียง 300 โครงการ และมีวงเงินลงทุน 1.1 แสนล้านบาท โดยจากนี้ไปมั่นใจว่าการลงทุนจะมีความเข้มแข็งและมีส่วนช่วยเศรษฐกิจขยายตัวได้
ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนว่า หอการค้าไทยได้พยายามทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้รับทราบถึงปัญหา เศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว ซึ่งเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ทั้งยุโรป และจีน ต่างส่งผลต่อไทย รวมถึงส่งผลต่อตลาดการส่งออกของไทย ช่วงนี้ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวพัฒนาประสิทธิภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเมื่อทางบีโอไอได้ส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมการเกษตรและช่วยเหลือเอสเอ็มอี รายเล็กมากขึ้นแล้ว