
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มครึ่งปีแรกของปีนี้ คาดว่าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ลงทุนอยู่เดิมจะยังคงระดับอัตราการจ้างงานของแรงงานในระบบไว้ตามปกติ โดยหากจะรับแรงงานเพิ่มก็จะเป็นการทดแทนแรงงานเก่าที่เกษียณอายุหรือขอลาออกไปเท่านั้น คงไม่ใช่การรับแรงงานเพิ่มจากเหตุผลของการขยายกิจการใหม่ๆเพราะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่เอื้อให้ขยายการลงทุนเพราะกำลังซื้อในประเทศยังไม่ฟื้นตัวและนายจ้างส่วนหนึ่งก็ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการผลิตด้วยการหันไปใช้เครื่องจักรในกระบวนการผลิตมากขึ้น
สำหรับภาวะการว่างงานของคนไทยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวน 404,000 คน คิดเป็นอัตราว่างงาน 1.1% ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 43,000 คน หากพิจารณาราย ละเอียดจะพบว่าไทยมีทั้งการว่างงานและขาดแคลนแรงงานควบคู่กันไป โดยในส่วนของแรงงานไร้ฝีมือ ก็จะพบว่าอัตราการว่างงานเป็นศูนย์ เพราะต้องนำเข้าแรงงานจากต่างด้าว มาทำงานแทนคนไทยประมาณ 3 ล้านคน
ทั้งนี้ จากผลสำรวจของสภาองค์การฯยังพบว่า อัตราการว่างงานจะไปกระจุกตัวในแรงงานระดับกลางซึ่งส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่จบระดับอุดมศึกษาที่มาจากสายสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ซึ่งมีการผลิตแรงงานส่วนนี้เข้ามาเกินความต้องการของตลาดแรงงานปีละ 200,000 คน และสิ่งที่น่ากังวลคือจะมีบัณฑิตจบใหม่อีกช่วงเร็วๆนี้หากเลือกงานก็จะตกงานเพิ่มอีก แต่ถ้าเป็นสายวิชาชีพก็ไม่มีปัญหามากนัก ซึ่งอนาคตมีความจำเป็นมากที่ประเทศ ไทยจะต้องเร่งปรับการศึกษาให้สอดรับกับความต้องการแรงงาน