
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา จะเริ่มเห็นผลและทำให้เศรษฐกิจในปีนี้ มีอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไม่ต่ำกว่า 1.5% และหากใครจะมองว่าจีดีพีปีนี้จะต่ำกว่า 1.5% ก็ไม่เป็นไร เพราะกระทรวงการคลังกำลังเร่งรัดจ่ายเงินชาวนาวงเงิน 40,000 ล้านบาท ให้เสร็จสิ้นภายในกลางเดือน ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ ในส่วนโครงการลงทุนไทยเข้มแข็งวงเงิน 15,000 ล้านบาท ขณะนี้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว คาดว่าจะเริ่มทยอยเบิกจ่ายได้ทันที รวมถึงการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมปี 2558 ในช่วงเดือนแรก (ต.ค.57) ได้รับรายงานจากกรมบัญชีกลาง เบิกจ่ายได้เกินกว่าเป้า ดังนั้น ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้มองว่า การเบิกจ่ายภาครัฐจะเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า แม้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือ 1% แต่ สศค.ยังมองจีดีพีปีนี้ขยายตัวที่ระดับ 1.4% โดยมีช่วงระหว่าง 1.2-1.7% ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ หากเม็ดเงินตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 57 ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้จริง โดย สศค.จะต้องติดตามเม็ดเงินไตรมาสสุดท้ายได้เท่าไหร่ ส่วนมาตรการขึ้นเงินเดือนค่าครองชีพข้าราชการชั้นผู้น้อย ให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 2557 จะมีผลทางด้านจิตวิทยาช่วยกระตุ้นการบริโภคช่วงปลายปีกระเตื้องขึ้นได้
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอยู่ใน เวลานี้ โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง เร่งบูรณาการร่วมกันเพื่อดูแลเอสเอ็มอีให้เติบโตกลายเป็นผู้ประกอบการราย ใหญ่ต่อไปให้ได้.