
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. มีความเห็นสอดคล้องกับที่นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าเศรษฐกิจไทยซบเซา (Stagnation) หมายถึงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไม่มีการขยายตัวหรือขยายตัวในอัตราที่ต่ำ เป็นระยะเวลานานพอสมควร มักเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะการว่างงานที่สูง โดยความสำคัญ คือ ระยะเวลาดังกล่าวมีความต่อเนื่องยาวนานเพียงใด
สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 57 นั้น ในช่วงครึ่งปีแรกอาจกล่าวได้ว่าอยู่ในภาวะ Stagnation ในเรื่องอัตราการเติบโต แต่ไทยไม่มีปัญหาเรื่องการว่างงาน ในปัจจุบันถือว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัวและได้พ้นจากช่วง Stagnation ไปแล้ว แต่ยังถือเป็นช่วงรอยต่อที่สำคัญ จึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นได้มากน้อยเพียงใด จึงยังไม่อยากให้กังวลหรือมองภาพเศรษฐกิจในเชิงลบเกินไป
ทั้งนี้ ธปท.ประเมินว่าแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีและต่อเนื่องไปถึง ปีหน้าจะมาจากการใช้จ่ายในประเทศเป็นหลัก ทั้งการลงทุนและการบริโภค นโยบายภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจเอกชนในการลงทุนเพิ่ม เมื่อรวมกับแนวโน้มการจ้างงานและรายได้ของครัวเรือนที่ทำงานนอกภาคเกษตรและ ฐานะทางการเงินของครัวเรือนที่มีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากครัวเรือนเริ่มปรับตัว และชะลอการก่อหนี้ น่าจะสนับสนุนให้การใช้จ่ายของครัวเรือนฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่าการเติบโตอาจดูไม่แข็งแกร่งเหมือนในอดีต เพราะการฟื้นตัวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เศรษฐกิจจึงยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ในทุกภาคส่วน ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยไปพึ่งพาการก่อหนี้มากใน 2 ปีก่อน รวมถึงโครงสร้างการผลิตของไทยทั้งด้านแรงงานและโครงสร้างพื้นฐานยังต้อง พัฒนามากกว่า
ด้านนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2559 โดยให้ทุกกระทรวงทำตามแนวทางการจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการในทุกๆ มิติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่ทับซ้อนกัน โดยได้มอบหมายให้ทุกส่วนงานเร่งปรึกษาหารือเพื่อวางกรอบในการจัดทำงบประมาณ เพื่อเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณาต่อไป