
“ปรีดิยาธร” โชว์ผลงานเศรษฐกิจกลางที่ประชุมร่วม คสช.-ครม. ระบุเตรียมรับข่าวดีขายยางลอตใหญ่แทบหมดสต๊อก แถมราคาสูงกว่าตลาด 1-2 วันนี้ ขีดเส้นชงกฎหมายภาษีมรดกและภาษีการให้เข้า สนช.เดือน ต.ค.นี้ นายกฯ สั่งทำโรงไฟฟ้าขยะและจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจที่ได้ดำเนินการมาแล้ว และที่กำลังดำเนินการ รวมทั้งจะดำเนินการในอนาคตให้ที่ประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช.รับทราบ 8 เรื่อง เรื่องแรก คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ ครม.เห็นชอบสัปดาห์ก่อน ได้แก่ มาตรการเพื่อการสร้างงานโดยเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ค้างท่อ และปีปัจจุบัน มาตรการเพิ่มรายได้ด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมให้ม.ร.ว.ปรีดิยาธรไปหารือกับธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วางหลักเกณฑ์และชี้แจงให้สังคมมีความสบายใจว่าชาวนาจะได้รับเงินอย่างเต็ม เม็ดเต็มหน่วย หลังจากที่มีข้อมูลบางส่วนระบุว่าเจ้าของที่นาหลายแห่ง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของชาวนา ให้ชาวนานำเงินมาแบ่งให้ 7,500 บาท นายกรัฐมนตรีจึงต้องการให้เงินถึงมือชาวนาอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้ชี้แจงที่ประชุมว่า การจ่ายเงินดังกล่าวจะจ่ายเงินให้กับชาวนาที่มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ โดยเป็นข้อมูลใหม่ที่มีความทันสมัยและมีการเปรียบเทียบกับข้อมูลเก่า โดยการขึ้นทะเบียนของชาวนาในปีนี้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.ค.และจะสิ้นสุดในเดือน พ.ย.
ส่วนเรื่องที่ 2 คือ การแก้ไขปัญหายางพารา ม.ร.ว.ปรีดิยาธรชี้แจงว่ากำลังจะมีข่าวดีใน 1-2 วันนี้ โดยจะมีผู้เข้ามาซื้อยางในสต๊อกที่รัฐบาลมีอยู่เกือบทั้งหมดและได้ราคาสูง กว่าราคาตลาดด้วย เรื่องที่ 3 การเตรียมการรองรับเศรษฐกิจดิจิตอล จำเป็นต้องออกกฎหมายเพิ่มเติมและปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่เดิม 13 ฉบับ ขณะนี้ได้ยกร่างแรกเสร็จแล้วทั้งหมด ขณะที่เรื่องที่ 4 การปรับปรุงโครงสร้างภาษี โดยภาษีมรดกและภาษีการให้ จะนำเสนอ สนช.ภายในเดือน ต.ค. ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและเรื่องยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกอง ทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะนำเสนอ ครม.ภายในเดือน พ.ย. ก่อนเสนอ สนช.ในเดือน ธ.ค.
เรื่องที่ 5 การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงบางประเภท ได้รายงานที่ประชุมว่า ได้มีการทยอยปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับต้นทุนและปรับกองทุน น้ำมันและเชื้อเพลิงให้สมดุลยิ่งขึ้น โดยได้ประกาศขึ้นราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีไปแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การปลูกพืชพลังงานควรยกเป็นวาระสำคัญ และดำเนินการพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง เช่น เรื่องไบโอดีเซลให้เพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มที่ 20% ทำให้มีความต้องการปาล์มน้ำมันอีก 2 ล้านไร่ หากดำเนินการจริงจังจะได้ส่งเสริมการปลูกปาล์มต่อไป
เรื่องที่ 6 เนื่องจากมีผู้ยื่นขอประทานบัตร และอาชญาบัตรเหมืองแร่ค้างอยู่จำนวนมาก กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ออกใบอนุญาตคำขออาชญาบัตรและประทานบัตรเหมืองแร่ที่ ค้างอยู่ 101 แปลง จะช่วยให้กิจกรรมด้านเหมืองแร่เริ่มต้นต่อไปได้ เรื่องที่ 7 กระทรวงคมนาคมได้เจรจายืดอายุการขึ้นราคารถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินถึงสิ้น เดือน ธ.ค. 2557 และตกลงกับตัวแทนผู้ขับแท็กซี่ให้คงราคาค่าโดยสารเบื้องต้นที่ 35 บาท แต่ยินยอมให้ปรับราคาขึ้นตามระยะทางให้เพิ่มเร็วขึ้น และขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เตรียมแผนเร่งประมูลรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและที่จะ เชื่อมกับเมืองบริวาร เพื่อให้ประมูลได้มากสุดในปี 2558
เรื่องสุดท้าย กระทรวงพาณิชย์ได้ขายข้าวอย่างสม่ำเสมอโดยในเดือน ส.ค.และ ก.ย. ขายได้ทั้งสิ้น 879,918 ตัน มาจากการขายระหว่างรัฐต่อรัฐไปยังจีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ทั้งสิ้น 675,000 ตัน ขายให้กับองค์กรเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ 59,608 ตัน และขายโดยการประมูลทั่วไป 145,310 ตัน ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังมีข้าวที่จะขายให้อิหร่านอีกจำนวนหนึ่งด้วย และได้รายงานแผนยกระดับราคาข้าวของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการ (นบข.) ข้าวเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ทันฤดูกาลเก็บเกี่ยวนาปีของปีนี้ด้วย
พล.ต.สรรเสริญยังกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ทุกกระทรวงปฏิบัติงานให้มีผลงานจับต้องได้ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เช่น การสร้างโรงงานไฟฟ้าจากขยะ และจัดซื้อรถเมล์ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวี เป็นต้น นายรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน โดยเพิ่มทางจักรยานมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด.