สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

คลังเผยลงทุน-ส่งออกหด ฉุดสัญญาณ ศก. เดือน ส.ค.แผ่วลง
06/10/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

คลังเผยสัญญาณ ศก. เดือน ส.ค. แผ่วลง จากบริโภค ลงทุน ส่งออก ท่องเที่ยวหดตัว ขณะที่ดัชนีผู้บริโภค เพิ่มขึ้นที่ 70.1 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 สูงในรอบ 13 เดือน หลังการเมืองคลี่คลาย ยันไร้ปัญหาเสถียรภาพในประเทศ - ทุนสำรอง...

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ส.ค. 57 ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือน ส.ค. 2557 มีสัญญาณแผ่วลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจากการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกสินค้ายังคงหดตัวจากเศรษฐกิจโลก ที่ยังมีการชะลอตัว เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวยังคงหดตัวเช่นกัน ขณะที่การผลิตในภาคเกษตรกรรม สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุด พบว่า การบริโภคภาคเอกชนในเดือน ส.ค.57 มีสัญญาณหดตัวจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนได้จากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือน ส.ค.57 หดตัวร้อยละ -0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหดตัวร้อยละ -1.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมปรับเพิ่ม ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70.1 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ทาง การเมืองที่คลี่คลายลง และการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนขึ้น

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ พบว่า หดตัวทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ -14.1 ต่อปี และหดตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ -4.5 ต่อเดือน เช่นเดียวกับยอดขายปูนซีเมนต์ที่หดตัวร้อยละ -2.7 ต่อปี และหดตัวร้อยละ -0.1 ต่อเดือน ขณะที่การลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัวที่ร้อยละ -21.2 ต่อปี

อย่างไรก็ดี พบว่าปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ สามารถกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ด้านอุปสงค์ต่างประเทศหดตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน ส.ค.57 มีมูลค่า 18.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัวร้อยละ -7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหดตัวร้อยละ -2.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าส่งออกที่หดตัว ได้แก่ สินค้าในหมวดยานพาหนะและหมวดเกษตร ในสินค้ายางพารา เป็นสำคัญ

ด้าน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานมีสัญญาณแผ่วลงเช่นกันในการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวจากต่างชาติ ส่วนการผลิตในภาคเกษตรกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือน ส.ค.57 พบว่า สามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมหดตัวที่ร้อยละ -1.6 ต่อเดือน ตามการลดลงของผลผลิตข้าวที่ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งในช่วงต้น ปี ทำให้เกษตรกรลดการปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 สอดคล้องกับผลผลิตมันสำปะหลังที่หดตัวลง เนื่องจากมีการเร่งเก็บเกี่ยวไปแล้วในช่วงก่อนหน้า

สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน ส.ค.57 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.08 ล้านคน หรือหดตัวร้อยละ -11.9 ต่อปี อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่าขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.1 ต่อเดือน ส่วนหนึ่งเนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้นประกอบกับมีประเทศที่มีการเตือน สำหรับการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Travel Advisory) ลดลงจาก 64 ประเทศ เหลือ 58 ประเทศ

ด้านเสถียรภาพในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่เสถียรภาพต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ต่อปี ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 2.87 แสนคนของกำลังแรงงานรวม

สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศ ถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงที่ 167.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.7 เท่า ซึ่งจะสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้.

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.