สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

กกร.เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัวกว่า 4%
10/08/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

บุญทักษ์  หวังเจริญ

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 องค์กร (กกร.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะขยายตัว 4% และทำให้จีดีพีทั้งประเทศในปี 2557 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2% ภายหลังจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนภาคเอกชนดีขึ้น โดยเห็นได้จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว สินค้าอุปโภคบริโภค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนของภาครัฐ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในวงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว

ในขณะที่ที่ประชุมเชื่อว่าการส่งออกทั้งปีจะขยายตัวเพียง 1.2-1.5% เนื่องจากการส่งออกสินค้าเกษตรที่เกี่ยวกับยางพาราไปจีนนั้นยังหดตัวอยู่

นอกจากนี้ กกร.ยังอยู่ระหว่างการเตรียมประเด็นข้อเสนอสำหรับการประชุม คณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชน (กรอ) ครั้งที่2/2557 โดยจะครอบคลุม 5 เรื่อง ได้แก่ ข้อเสนอด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข้อเสนอด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม ข้อเสนอด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ข้อเสนอด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและโลจิสติกส์ และข้อเสนอด้านการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ

"สำหรับเงินเดือนข้าราชการ ที่ประชุม กกร.ไม่ได้หารือเรื่องนี้ มองว่าควรจะปรับให้สอดคล้องกับความรู้ความสามารถ แต่ในขณะเดียวกันการเพิ่มเงินเดือนมีทั้งข้อดีข้อเสีย คือทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่ราคาสินค้าก็ขึ้นตาม และมีความกังวลว่าจะทำให้เกิดการควบคุมราคาสินค้าได้ยาก"

ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ตัวแทนภาคเอกชนที่ได้เข้าไปดำรงตำแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกฎหมายทุกประเภทที่ขับเคลื่อนประเทศ

อย่างไรก็ตาม แม้สัดส่วนภาคเอกชนจะไม่ได้เข้าไปอยู่ใน สนช.มากนัก แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เป็นประโยชน์ด้านการค้า ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ เช่น ส.อ.ท.ต้องการให้ปรับปรุงแก้ไขเรื่องกฎหมายด้านศุลกากร และกฎหมายด้านภาษีที่มีความซ้ำซ้อน และกฎหมายด้านการลงทุนในต่างประเทศ เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีกฎหมายหลักประกันธุรกิจและกฎหมายเกี่ยวข้องกับ อิเล็กทรอนิกส์ที่เอกชนต้องการให้ปรับปรุงพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน

นอกจากนี้ นายสุพันธุ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นคนที่กล้าตัดสินใจ เด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกันต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และที่สำคัญต้องมีการทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.