สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

“คสช.”พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย
05/08/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

“สอท.” เป่ากระหม่อมต่างชาติเรียกความเชื่อมั่น

ส.อ.ท.จัดงานกล่อมต่างชาติเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย ด้าน “สุรเกียรติ์” เผยนโยบายเศรษฐกิจ คสช. นำเศรษฐกิจไทยกลับคืนมาแล้ว ชี้ต่างประเทศจับตาไทยปฏิรูปการเมือง โดยเฉพาะการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในสภาปฏิรูป ขณะที่เจ้าสัวสหพัฒน์ลั่น คสช.เดินมาถูกทาง เชื่อใจ “บิ๊กตู่” ทำงานให้ประเทศได้อย่างดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้จัดการสัมมนาครั้งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Thailand is Back” เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในสายตาของต่างชาติ ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้แทนจากสถานทูตประเทศต่างๆ ทูตพาณิชย์ หอการค้าต่างประเทศ และผู้แทนองค์กรชั้นนำระดับโลกทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมงานมากกว่า 500 คน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากภาวะยืดเยื้อทางการเมืองใน ประเทศ จนต่างชาติสูญเสียความเชื่อมั่น จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันฟื้นฟูความเชื่อมั่น กระตุ้นนักลงทุนให้กลับมา ด้วยการให้ข้อมูลสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยที่ถูกต้อง โดยหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ารักษาความสงบ และเดินหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ส.อ.ท.เชื่อว่าภาวะปกติในการทำธุรกิจจะกลับคืนมาในที่สุด โดยเฉพาะการประกาศแนวทางการบริหารราชการแผ่นดิน หรือโรดแม็ปออกมาชัดเจน ทำให้เสียงสะท้อนจากประเทศในยุโรป และสหรัฐฯ ที่มีต่อประเทศไทยเริ่มเบาลงแล้ว

สำหรับการมีส่วนร่วมในการเดินหน้าเศรษฐกิจไทย ขณะนี้ ส.อ.ท.ได้ประสาน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ คสช. เพื่อขอให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการปรับปรุงกฎหมายมากกว่า 100 ฉบับที่ คสช.เห็นว่ามีความจำเป็นต้องปรับปรุง โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออก ที่มีขั้นตอนซับซ้อน ล้าหลัง ไม่มีความสะดวก เป็นต้น

นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า คสช.เดินหน้าด้านเศรษฐกิจของประเทศผ่านทางมาตรการต่างๆ เช่น การจ่ายเงินค้างชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ การอนุมัติสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุน (บีโอไอ) การประกาศนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน การดึงดูดนักท่องเที่ยว และการลงทุนในโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมากกว่า 10% ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ค.ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าภาคเศรษฐกิจไทยได้กลับคืนมาแล้ว

โดยที่ผ่านมาโรดแม็ปเศรษฐกิจของ คสช.ที่ออกมาจะส่งผลบวกให้เห็นในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ และจะช่วยการเติบโตเศรษฐกิจไทยใน ปี 58 ที่คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 5% อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยท้าทายอยู่ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.ตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 400,000-500,000 คน 2.การส่งออกที่ขยายตัวเพียง 5-6% ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็นและต่ำกว่าระดับที่จะขับเคลื่อน เศรษฐกิจไปข้างหน้าได้ 3.มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพื่อเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) 4.มาตรการช่วยชาวนาให้มีรายได้เพียงพอ โดยไม่ให้เป็นภาระงบประมาณของรัฐบาล โดยจะต้องเป็นมาตรการที่โปร่งใส และ 5.มาตรการสร้างงานให้แก่คนยากจน

“ประชาคมต่างประเทศต่างจับตาดูโรดแม็ป การเมืองไทยว่าเราจะมีการปฏิรูปจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการตั้งสภาปฏิรูป ต้องเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น มีความโปร่งใส ตรวจสอบการทุจริต และมีธรรมาภิบาล เพราะความมีเสถียรภาพทางการเมืองจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโดย เฉพาะองค์ประกอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ที่จะมีขึ้นต่อจากนี้”

นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คสช.ได้เข้ามาแก้ปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เช่น การจ่ายเงินค่าข้าวให้แก่ชาวนา การอนุมัติบีโอไอ การออกใบอนุญาตรง.4 ที่คั่งค้างมาอย่างยาวนานในรัฐบาลชุดก่อน จนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ร่วงลงในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมากระเตื้องขึ้นหลังจากทหารเข้าควบคุมอำนาจ และยังทำให้ตัวเลขการลงทุนของภาคเอกชน ตัวเลขการส่งออกขยับขึ้นเล็กน้อย มีการนำมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชันมาพิจารณาเพื่อดำเนินการ

“เท่าที่ได้ดูนโยบายของ คสช.แล้วพบว่า คสช.เดินมาถูกทางแล้ว แม้การปฏิวัติจะถูกมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ผมมองว่าแนวทางของ คสช. คือสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่เราต้องเชื่อมั่น คสช. แม้ผมไม่ได้รู้จักกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นการส่วนตัว แต่เชื่อว่าหัวหน้า คสช.จะทำงานให้ประเทศได้เป็นอย่างดี”.

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.