สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

สสว. เผย SMEs มีสัญญาณฟื้นตัว
23/07/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการที่ สสว. ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ SMEs ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2557 (มกราคม-พฤษภาคม) ทั้งด้านการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการจัดตั้งและยกเลิกกิจการของ SMEs พบว่า สถานการณ์โดยภาพรวมเริ่มมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น ทั้งในด้านการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายของภาครัฐ ผลจากปัญหาทางการเมืองของไทยคลี่คลายลง ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักมีแนวโน้มที่ดี ส่งผลดีต่อการส่งออกของผู้ประกอบการไทย

เมื่อพิจารณาด้านการค้าระหว่างประเทศของ SMEs ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2557 พบว่า มีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในด้านการส่งออก ซึ่งมีมูลค่ารวม 757,526 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 7.5 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.3 ของมูลค่าการส่งออกรวม สำหรับเดือนพฤษภาคม การส่งออกของ SMEs มีมูลค่า 157,987 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.7 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา และขยายตัวร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

โดยตลาดหลักที่ SMEs ไทย ส่งออกสินค้าในช่วง 5 เดือนแรก สูงสุด ได้แก่ กลุ่มประเทศ ASEAN มีมูลค่า 212,502 ล้านบาท คิดเป็น 28.1% ต่อมูลค่าการส่งออกรวมของ SMEs รองลงมาคือ จีน กลุ่มสหภาพ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ที่สำคัญทุกกลุ่มประเทศคู่ค้าหลักดังกล่าว การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 2.7-12.9 ส่วนสินค้าที่มีการส่งออกสูงสุด ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของทำด้วยพลาสติก เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ยางและของที่ทำด้วยยาง

ในด้านการนำเข้าของ SMEs ช่วง 5 เดือนแรกของปี มีมูลค่า 865,816 ล้านบาท หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.5% และคิดเป็นสัดส่วน 28.1% ของการนำเข้ารวม โดยเดือนพฤษภาคม การนำเข้าสินค้าของ SMEs มีมูลค่า 179,913 ล้านบาท หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.6% และขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา 2.19% ตลาดที่ SMEs นำเข้าสินค้าช่วง 5 เดือนแรกของปีสูงสุด ได้แก่ จีน มูลค่ารวม 229,780.27 ล้านบาท คิดเป็น 26.5% ต่อมูลค่าการนำเข้ารวมของ SMEs รองลงมา คือ กลุ่มประเทศอาเซียน ญี่ปุ่น กลุ่มสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา สินค้าที่นำเข้ามากที่สุด ได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เหล็กและเหล็กกล้า ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศ ให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศรวมถึงสถานการณ์ของ SMEs จะมีทิศทางที่ดีขึ้น

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.