เศรษฐกิจเริ่มกลับมาดีขึ้น : ศรยุทธ เทียนสี
เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยกำลังจะกลับมาเริ่มความสงบ สุขอีกครั้ง เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบสายฟ้าแลบ ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วัน สามารถพลิกฟื้น เปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทยได้ทั้งประเทศ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า การปกครองบริหารประเทศในขณะนี้ มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาที่มันคารังคาซังมานานอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปัญหาเร่งด่วนของพี่น้องเกษตรกร ที่ในวันนี้ต่างเฮลั่น ได้ค่าจำนำข้าว ที่ต่างรอคอยกันมาอย่างยาวนาน และเชื่อว่าอีกไม่ช้าไม่นาน การจ่ายเงินค่าจำนำข้าวจะแล้วเสร็จ ส่งผลให้ภาคธุรกิจเริ่มมีความเชื่อว่า การจ่ายเงินจำนำข้าวจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดหมุนเวียนในระบบมากกว่าแสนล้านบาท
ทั้งนี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า ถ้ามีการเร่งรัดจ่ายเงินจำนำข้าว จะสามารถช่วยให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่เคยคาดการณ์ไว้จาก 1% ขยับเป็น 3% ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทำให้นักลงทุนต่างเริ่มมีความเชื่อมั่นกับสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้มาก ยิ่งขึ้น ซึ่งจากการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มมีบรรยากาศการใช้จ่ายภายในประเทศช่วงไตรมาสสอง น่าจะดีขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้ หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีภาพที่นิ่งมากขึ้น และมาตรการดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทยอยส่งผลเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทย
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีความเป็นไปได้มากขึ้น แม้ยังมีปัจจัยท้าทาย แม้ปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการใช้จ่ายภาคเอกชน อาทิ ความกังวลต่อภาระหนี้สิน ภาระค่าครองชีพ และความเพียงพอของสภาพคล่อง จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
แต่สถานการณ์ทางการเมืองที่เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านโดยปราศจากความรุนแรง น่าจะเอื้อให้ไทยสามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนให้ฟื้นกลับมาได้ โดยเร็ว
ขณะที่การเร่งจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.2557 น่าจะทำให้แรงกระตุ้นจากการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการผลักดันงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น โครงการต่อเนื่องให้มีความคืบหน้าได้เร็วขึ้น
ภาพรวมทั้งปี 2557 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเมือง น่าจะเอื้อโอกาสมากขึ้นให้เศรษฐกิจไทยวกกลับสู่เส้นทางการฟื้นตัวในช่วง ครึ่งหลังของปี 2557 แต่กระนั้นก็ตาม ความท้าทายในระยะข้างหน้า ยังอยู่ที่การเรียกฟื้นคืนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทิศทางการส่งออกที่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
สำหรับในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ เชื่อเช่นกันว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง โดยเฉพาะการปัดฝุ่นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งนี้ นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงไตรมาสแรกปี 2557 ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัว ซึ่งมีปัจจัยจากปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง
คาดการณ์ว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคและนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในสถานการณ์ และได้เริ่มมีการวางแผนการลงทุน หลังจากจะมีการนำโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทเข้ามาพิจารณาอีกครั้ง เชื่อว่าจะทำให้เกิดการจ้างแรงงาน ทำให้ประชาชนมีรายได้และเริ่มมีกำลังซื้อ และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดี
โดยนายสัมมายังระบุอีกว่า ตอนนี้สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งแต่กลางปี 2556 จนถึงช่วงต้นปี 2557 สถานการณ์ดูตึงเครียด และหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้สถานการณ์ในประเทศเริ่มดีขึ้น ประกอบกับมีแนวคิดนำโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกลับมาปัดฝุ่นใหม่ และชาวนาได้รับค่าจำนำข้าวแล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นและมีแนวโน้มดี
สัญญาณที่ดีในขณะนี้ เกิดจากความเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ของทั้งกองทัพทหารและกองทัพประชาชน ที่อยากเห็นประเทศไทยกลับมาสงบสุขอีกครั้ง คาดว่าภายในปี 2557 นี้ ภาพรวมของประเทศจะกลับมาฟื้นตัวดั่งเช่นในอดีตที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน..ฟัน ธง!!.