
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ยอมรับปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจให้ชะลอตัว เนื่องจากความเชื่อมั่นของประชาชนและภาคธุรกิจลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีรายได้ลดลงกว่าประมาณ 40% และหลายรายมีความเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่อง โดยเฉพาะในกลุ่มท่องเที่ยว รับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจำนวน 19,000 ราย จากจำนวนลูกค้าเอสเอ็มอีทั้งหมดกว่า 140,000 ราย ที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินเร่งด่วน เพราะ 15,000 รายในจำนวนนี้หรือคิดเป็นมูลหนี้ 34,000 ล้านบาท มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เทียบกับภาระหนี้ที่มีกับธนาคารในสัดส่วนสูงมาก
สำหรับมาตรการช่วยเหลือพิเศษแก่เอสเอ็มอีทั้ง 3 กลุ่ม คือ การลดดอกเบี้ยวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือ OD xit,kI 3% เป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 31 สิงหาคม 2557 และพักชำระหนี้เงินต้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเชื่อว่าจะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีเงินหมุนเวียนเพิ่มจากปกติประมาณ ร้อยละ 55 นอกจากนี้ธนาคารเตรียมวงเงินกู้อีก 75,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ใหม่ให้กับเอสเอ็มอีในธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบและต้องการ เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น
ส่วนเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปีนี้ของธนาคารกสิกรไทย ยังคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่จะขยายตัวร้อยละ 6-8 จากยอดรวมสินเชื่อคงค้างเมื่อปลายปี 2556 จำนวน 629,000 ล้านบาท เพราะเห็นสัญญาณเอสเอ็มอีเริ่มสต๊อกสินค้าเพื่อผลิตมากขึ้น
วันที่ 4/06/2557 เวลา 6:39 น.