คสช.เดินหน้าอัดฉีดเศรษฐกิจเต็มพิกัด ชง 4 มิ.ย. ตั้งบอร์ดบีโอไอ เทงบ 7 แสนล้านแจก 700 โครงการให้เสร็จใน 2 เดือน ไฟเขียว รง.4 ใบอนุญาตตั้งโรงงาน 200 แห่ง หนุนทำโซลาร์รูปท็อป ลุยทำรถไฟรางคู่ทันที เรียก “ชัชชาติ” แจงงบรถไฟความเร็วสูง เล็งยกเลิกเคอร์ฟิวแหล่งท่องเที่ยว “ภูเก็ต-สมุย” ขณะที่ตลาดหุ้นขานรับร้อนแรง ทะยานขึ้นเขียวปี๋บวก 25 จุด ทะลุ 5.5 หมื่นล้าน พร้อมส่ง ทหาร-ตร.คุมเข้มจ่ายเงินข้าวชาวนาป้องมาเฟียโขกสับ

“ประจิน” เทงบอัดฉีดเศรษฐกิจเต็มพิกัด
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงอุตสาหกรรมว่า ได้มีการหารือประเด็นสำคัญกรณีปัญหาการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือ รง.4 ที่ขณะนี้กระทรวงฯ ได้ปรับลดขั้นตอนจาก 90 วัน เหลือไม่เกิน 45 วัน จะมีการปรับตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหรือ KPI ใหม่ให้แล้วเสร็จไม่เกิน 30 วัน โดยให้เร่งอนุมัติโรงงานที่ค้างพิจารณา รง.4 จำนวน 200 แห่งโดยเร็ว โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) ให้เป็นเรื่องเร่งด่วนพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน รวมทั้งเขื่อนขนาดเล็กไม่เกิน 1,000 KW ก็ได้อนุโลมให้ไม่ต้องขอ รง.4 อยู่แล้วจึงควรเร่งพิจารณาโดยเร็ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งด่วนคือการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยจะเสนอหัวหน้า คสช.ให้พิจารณาแต่งตั้งภายในวันที่ 4 มิ.ย.57 และหลังจากนั้นจะเร่งพิจารณาโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านบีโอไอ ที่ค้างการพิจารณา 700 โครงการ ประมาณ 7 แสนกว่าล้านบาทให้ได้หมดไม่เกินภายใน 2 เดือน
เรียก “ชัชชาติ” หารือรถไฟรางคู่
พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษก คสช. กล่าวถึงในส่วนของโรดแม็พของงานด้านเศรษฐกิจซึ่งในที่ประชุมได้มุ่งเป้าไป ที่งบค้างปี 2557 ที่มีเงื่อนไขติดขัดในข้อกฎหมายของการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คาดว่าจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ ถึงจะมีข้อมูลที่ชัดเจน และเมื่อแก้ปัญหาในงบปี 2557 ไปแล้ว ก็จะเข้าสู่การพิจารณางบประมาณปี 2558 ทันที โดยจะเน้นเหตุผลความจำเป็น และการบริหารงบประมาณ และรายจ่ายประจำปีจะไม่ติดขัด เพื่อเป็นส่วนในการผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนโครงการเงินกู้สองล้านล้านบาทนั้น คสช.จะพิจารณาโครงการไหนดีก็ให้เริ่มก่อน โดยได้เน้นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และประชาชนให้การยอมรับ และผ่านการตรวจสอบในเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อมและทุกหน่วยงานไม่มีข้อขัด แย้ง พร้อมทำประชาพิจารณ์เรื่องที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในส่วนของรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้ไปดูข้อดี-ข้อเสียทำแล้วคุ้มหรือไม่ การใช้แหล่งเงินทุนมาจากไหน และจะต้องไม่กระทบวินัยการคลัง การก่อหนี้สาธารณะ คาดว่าไม่น่าจะทันนำเสนอภายใน 2 สัปดาห์ แต่โครงการที่จะสานต่ออย่างแน่นอนก็คือรถไฟรางคู่ โดยให้สำนักงบประมาณไปดูว่าจะเอาเงินตรงไหนมาดำเนินการ รวมทั้งให้ทางการรถไฟไปหาพื้นที่ว่าจะใช้จุดไหนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และการพัฒนาระบบรถไฟไทยเพื่อให้มีประสิทธิภาพเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น ซึ่งทาง คสช.จะเรียก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ซึ่งมาพูดคุยเพราะเป็นคนที่มีความรู้เพื่อจะได้ศึกษาในด้านต่างๆ
คสช.เล็งยกเลิกเคอร์ฟิว “สมุย-ภูเก็ต”
พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงกรณีที่ต่างชาติห้ามพลเมืองเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยว่า คสช.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกับบริษัทท่องเที่ยว โดยผ่านทางมัคคุเทศก์ เพื่อให้ประชาสัมพันธ์ว่าการรัฐประหารในประเทศไทยไม่ได้ส่งผลกระทบ นักท่องเที่ยวยังใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข ส่วนกรณีการท่องเที่ยวได้ขอให้ยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิวนั้น ทางหัวหน้า คสช.ได้มอบนโยบายไปแล้ว โดยให้พิจารณาพื้นที่ไหน สถานที่ไหนที่ไม่ได้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือแบ่งสีก็ให้เสนอมาเพื่อประเมินสถานการณ์และผ่อนปรน โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวไปดำเนินการ ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายหลักที่ทางหัวหน้า คสช.ได้พูดขึ้นมาเองว่าจะให้ยกเลิกหรือปรับลดในพื้นที่ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบ อย่าง จ.ภูเก็ต และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เน้นบริหารน้ำตามแนวทางพระราชทาน
พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงเรื่องการบริหารจัดการน้ำว่า คสช.จะไม่นำเอารูปแบบการบริหารการจัดการน้ำจำนวน 3.5 แสนล้านบาทมาใช้ทั้งหมด แต่จะหยิบยกเป็นบางส่วน โดยจะเน้นไปที่โครงการที่เป็นเบี้ยหัวแตก เช่น การขุดบ่อน้ำหมู่บ้าน หากทำทั่วประเทศถึง 4,000 บ่อ บ่อละ 10 ล้านบาท จะใช้เงินจำนวนที่สูงพอสมควร ดังนั้นจะนำมาพิจารณาดูเรื่องการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม คสช.เน้นย้ำในเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่เป็นแนวทางพระราชทานมาดำเนินการ เช่น โครงการแก้มลิง การขุดลอกคูคลอง ให้ทางกรมชลประทานไปดูแล พร้อมทั้งให้ทหารเข้าไปทำเช่นโครงการขุดบ่อตามหมู่บ้านทั่วประเทศ 4 พันแห่ง แห่งละ 10 ล้านบาท ช่วยในแง่กักเก็บน้ำและป้องกันน้ำท่วม ที่ผ่านมาทางหน่วยทหารเข้าไปทำเยอะ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ซึ่งเราควบคุมได้ ราคาถูก เสร็จทันตามกรอบ โครงการไหนที่เร่งด่วนก็จะมีการจัดแบ่งทหารให้เข้าไปทำ ซึ่งจะลดการคอรัปชั่น ทางหัวหน้า คสช.ได้บอกกับหน่วยงานต่างๆ ว่า หากหน่วยงานไหนไม่เข้าใจ สามารถยกโทรศัพท์มาหาท่านได้ตลอดเวลา เพราะท่านเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว” พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าว
หุ้นพุ่งแรงตอบรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับบรรยากาศการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 มิ.ย.นั้น ดัชนีหุ้นไทยยังคงปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง หลัง คสช.ออกมาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประการ โดยบรรยากาศซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก โดยปิดตลาดมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ปิดที่ระดับ 1,440.94 จุด เพิ่มขึ้น +25.21 จุด หรือ +1.78% สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขาย 5 อันดับสูงสุด คือ TRUE ปิดที่ 7.55 บาท +0.45 บาท (+6.34%) ITD ปิดที่ 4.84 บาท +0.20 บาท (+4.31%) BBL ปิดที่ 191.00 บาท +6.00 บาท (+3.24%) SCB ปิดที่ 166.00 บาท +7.00 บาท (+4.40%) KBANK ปิดที่ 193.50 บาท +6.00 บาท (+3.20%)
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นร้อนแรงหลังมีโรดแม็พที่ คสช.ประกาศออกมาทำให้คนเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และมองข้าม Valuation ที่แพงไปแล้ว โดยมีการมองข้ามไปถึงปีหน้า นอกจากนี้ตลาดบ้านเราถือได้ว่ายัง Laggard ประมาณ 3-5% นับตั้งแต่ต้นปี เมื่อเทียบกับตลาดอินโดนีเซียและตลาดฟิลิปปินส์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม TIP เดียวกัน ดังนั้นตลาดบ้านเราจึงพอที่จะมี gap เล่นได้ หลังจากที่การเมืองชัดเจนขึ้น ทั้งนี้หุ้นขนาดใหญ่เริ่มมา ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า SET คงลงได้ยากขึ้น พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวรอบนี้ไว้ที่แนวรับ 1,410 จุด แนวต้าน 1,460 จุด
กรมข้าวลดราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ชาวนา
วันเดียวกันนี้ นายชาญพิทยา ฉิมพาลี อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวมีมติประกาศลดราคาจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวครั้งที่ 2 ในรอบปี 2557 เพื่อช่วยเหลือชาวนา โดยเมล็ดพันธุ์ที่ลดราคามีดังนี้ 1.ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง (ยกเว้นข้าวปทุมธานี 1) ได้แก่ พันธุ์ กข29 กข31 กข41 กข47 กข49 พิษณุโลก 2 สุพรรณบุรี 1 เดิมจำหน่ายกิโลกรัมละ 23 บาท ลดเหลือเพียงกิโลกรัมละ 19 บาท 2.ข้าวปทุมธานี 1 เดิมจำหน่ายกิโลกรัมละ 24 บาท ลดเหลือเพียงกิโลกรัมละ 20 บาท ทั้งนี้หากสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวทุกพันธุ์ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป จะได้รับส่วนลดร้อยละ 5 ของราคาจำหน่ายต่อครั้ง ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเป็นตัวแทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชของกรมการข้าวจะได้รับ ส่วนลดพิเศษ ดังนี้ 1.เมื่อสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท จะได้รับส่วนลดร้อยละ 5 ของราคาจำหน่าย 2.เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 50,001-1,000,000 บาท จะได้รับส่วนลดร้อยละ 7 ของราคาจำหน่าย 3.เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 1,000,001 บาทขึ้นไปจะได้รับส่วนลดร้อยละ 10 ของราคาจำหน่าย ส่วนกรณีที่ผู้ซื้อต้องการให้มีการส่งสินค้าโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวจะคิด ค่าขนส่งเพิ่มเติม โดยกำหนดให้ผู้ซื้อเป็นส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ คิดเพิ่มกิโลกรัมละ 1 บาท โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวใกล้บ้านท่าน หรือ www.ricethailand.go.th
ตร.-ทหารคุมเข้ม ธ.ก.ส.จ่ายเงินชาวนา
สำหรับบรรยากาศการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนานั้น วันที่ 2 มิ.ย. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ล่าสุดจ่ายไปแล้วกว่า 1,700 ล้าน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองผนึกกำลังป้องกันมิจฉาชีพและแก๊งเงินกู้นอกระบบที่จ้องทวงหนี้ ชาวนาอย่างไม่เป็นธรรม เช่นเดียวกับที่บุรีรัมย์มีชาวนาทยอยแห่รับเงินจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส.คึกคักต่อเนื่อง บางรายถอนเงินสดออกมาทันที เพื่อนำไปชำระหนี้สิน ซื้อปัจจัยการผลิต และใช้จ่ายในครอบครัว ขณะเดียวกันก็ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดทหารบกมาคอยดูแลรักษาความ ปลอดภัยในการจ่ายเงินจำนำข้าวอย่างเข้มงวดด้วย เพื่อป้องกันกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสมาก่อเหตุปล้น จี้ ชิงทรัพย์ซ้ำเติมชาวนา ส่วนที่จังหวัดพิจิตรนั้นทาง ธ.ก.ส.จ่ายเงินจำนำข้าวตามคิวที่ได้แจ้งไว้กับชาวนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเข้าไปเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้ กับชาวนาที่เบิกเงินสดจากธนาคาร โดย ธ.ก.ส.พิจิตรจ่ายเงินไปแล้ว 1,506 ล้านบาท ชาวนาที่ได้รับเงินแล้วจำนวน 1 หมื่นราย คิดเป็นร้อย 70 จากยอดทั้งหมด 2,267 ล้านบาท
วันที่ 3/06/2557 เวลา 9:33 น.