สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

สค.ยกทัพเอกชนไทยบุกตลาด “ลาตินอเมริกา”
12/05/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

สค.นำทัพเอกชนไทยบุกตลาด “ลาตินอเมริกา” รุดพบผู้ซื้อรายใหญ่-หอฯ ประชิดคู่ค้าเชิงกลยุทธ์ หวังเพิ่มการส่งออกทะลุเป้าโต 5%บราซิลเนื้อหอมชนชั้นกลางฯ60ล้านคน อำนาจซื้อเพิ่ม นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการนำคณะผู้แทนการค้าเยือนลาตินอเมริกา (ประเทศบราซิล ชิลี เปรู และโคลอมเบีย)ระหว่างวันที่ 3-14พฤษภาคม 2557ว่า ภูมิภาคลาตินอเมริกามีสมาชิก 47ประเทศ ในปีนี้ไทยตั้งเป้าหมายการส่งออกมายังตลาดลาตินอเมริกาขยายตัวเพิ่มขึ้น 5%หรือมีมูลค่า 8,634ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปี 2556ที่ไทยส่งออก 8,222ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.9%โดยไทยทำการค้ากับบราซิลเป็นอันดับ 1มีสัดส่วนสูงถึง 32%ของการค้ารวมระหว่างไทยกับภูมิภาคลาตินอเมริกา(อันดับ 2เม็กซิโก และอันดับ 3อาร์เจนตินา)

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค

“ทั้งไทยและบราซิลมีความสามารถในการผลิตและส่งออกสินค้าเหมือนกัน แต่ไทยมองบราซิลในฐานะคู่ค้าเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่ในฐานะคู่แข่ง  เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีสินค้าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งไทยต้องการแสวงหาวัตถุดิบและสินค้าจากบราซิล อาทิ ถั่วเหลือง ทองคำ ฝ้าย หนังสัตว์ ปลาแช่แข็ง เป็นต้น และมีความสนใจในสินค้าอื่นๆ ที่บราซิลมีความเชี่ยวชาญ ในขณะที่บราซิลมีความต้องการสินค้าในกลุ่มอะไหล่ยานยนต์ อาหาร เป็นต้น” นางนันทวัลย์ กล่าว และว่า การเดินทางครั้งนี้ได้นำผู้ประกอบการ 24ราย ในกลุ่ม ชิ้นส่วนยานยนต์ 13ราย วัสดุก่อสร้าง 4ราย อาหาร 3  ราย  พลาสติก  2ราย เครื่องจักร    1ราย  และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับคู่ธุรกิจการค้าในหลายระดับ

ทั้งนี้ในทุกประเทศที่เดินทางไปจะหารือการค้ากับผู้นำเข้ารายใหญ่และหอการ ค้าฯเพื่อแลกเปลี่ยนสภาพเศรษฐกิจการค้าการลงทุน  ภาวะตลาดและสินค้า รวมถึงฐานข้อมูลรายชื่อ ผู้นำเข้าสินค้าและผู้ส่งออกสินค้าวัตถุดิบที่ไทยต้องการนำเข้า เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการที่สนใจตลาด การสำรวจตลาดและย่านการค้าสำคัญ กฎระเบียบด้านการค้า การหารือเพื่อเตรียมความพร้อมการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตเสรีการค้า ไทย-เปรู เป็นต้น

นอกจากนี้กรมฯยังได้แนะนำช่องทางการค้าออนไลน์ และเชิญชวนเอกชนเป็นสมาชิกและซื้อขายผ่าน www.thaitrade.com ซึ่งเป็นการบริการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ปัจจุบันมีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 1.8ล้านราย มีผู้ขายและผู้ซื้อที่ได้รับการคัดกรอง โดยมีผู้ขาย 11,427ราย ผู้ซื้อ 52,100ราย และคาดว่าจะมีมูลค่าซื้อขายกว่า 1,700ล้านบาท

นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บราซิลเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และใหญ่เป็น อันดับ 8ของโลก มีทรัพยากรธรรมชาติมาก เช่น น้ำมันปิโตรเลียม บอกไซด์ ทองคำ แร่เหล็ก โดยเป็นผู้ส่งออกแร่/ผลิตภัณฑ์เหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรสำคัญของโลก ได้แก่ เมล็ดพืช (ถั่วเหลือง ข้าวโพด) เนื้อสัตว์ (ไก่สดแช่แข็ง เนื้อสดแช่แข็ง) น้ำตาล ในช่วง 5ปี (2013-2016) บราซิลมีการขยายตัวด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในระดับสูง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในมิถุนายน 2557และกีฬาโอลิมปิกในปี 2559และเมื่อวันที่ 1ม.ค. 57  บราซิลได้เพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอัตรา 724เฮอัลต่อเดือน( 310เหรียญสหรัฐฯ) จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจ

“ในภาพรวมคาดว่า เศรษฐกิจในลาตินอเมริกาจะยังเป็นจุดดึงดูดการค้าการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยปตท.สผ.ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนสำรวจปิโตรเลียม กับ บีจี บราซิล(BG Brasil)ขยายการลงทุนไปในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีศักยภาพเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่มากของโลกแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการวิเคราะห์ตลาดในช่วง 4-5ปีที่ผ่านมา บราซิลมีกลุ่มคนรายได้ชนชั้นกลาง/ผู้มีรายได้ปานกลาง-สูง มากขึ้นประมาณกว่า 60ล้านคน มีอำนาจซื้อที่สำคัญ และคาดการณ์ว่าตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคบราซิลจะขยายตัวในอัตรา 5 – 7%ต่อปีระหว่าง 2555 – 2559”นางนันทวัลย์ กล่าว

สำหรับการค้าระหว่างไทยกับลาตินอเมริกาในช่วงไตรมาสแรก(ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่า 1,893ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบมีมูลค่า 701ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยางพารา เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ  อาหารทะเลกระป๋อง ยางพารา และเม็ดพลาสติก เป็นต้น

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.