สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

ผ่านไป 3 เดือนอะไรก็ไม่สดใส
01/05/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

ผ่านไป3เดือนอะไรก็ไม่สดใส

ในโอกาสที่การดำเนินธุรกิจต่างๆ ผ่านพ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 และเพิ่งผ่านช่วงสงกรานต์ หรือเทศกาลปีใหม่ไทย เศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กำลังส่งผลต่อกันและกันจนหลายฝ่าย ต่างออกมาคาดกันว่าปัญหาคงจะมีการลากยาวออกไปนานพอสมควรแน่ๆ เห็นได้จากประเด็น ดังต่อไปนี้

1.เศรษฐกิจของโลกมีการฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นแบบเตาะแตะ เปราะบาง ไม่แข็งแกร่งอย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง เช่น เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวจากการส่งออกที่เป็นผลมาจากค่าเงินที่อ่อนและมีผลมาจาก คนอเมริกันบริโภค กินใช้ จับจ่ายใช้สอยมากขึ้นดูได้จากดัชนีความเชื่อมั่นของการบริโภค แต่ตัวเลขของการว่างงานที่เป็นตัววัดความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นั้นยังไม่น่าไว้วางใจนัก

2.เศรษฐกิจของจีนมีเรื่องของอัตราการขยายตัวที่ลดลง และหลายฝ่ายยังรอว่าทางการจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาช่วยหรือไม่ ประเทศไทยต่างคาดหมายว่าเราจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ ค้า ที่จะทำให้การส่งออกของเราดีขึ้นก็ดูเหมือนจะเลือนหายไป ดังนั้น สิ่งที่เห็นในไตรมาสแรกปีนี้ คือ เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวแต่มีความเปราะบาง

3.การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยผ่านความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองที่เริ่ม กระทบภาคธุรกิจมากขึ้น หน่วยงานวิเคราะห์วิจัยทางเศรษฐกิจแทบทุกสำนักตั้งแต่ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และอื่นๆ มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ลง จากเดิมที่คาดการณ์ตอนปลายปี 2556 ที่คาดไว้อัตราร้อยละ 4-5 เหลือร้อยละ 2-3 หรือต่ำกว่าภายใต้ข้อสมมุติว่า การเมืองจะคลี่คลายได้ช่วงครึ่งปีหลัง

แต่เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายก็รู้ดีว่าถ้าการเมืองยังไม่มีทางออก ยังไม่จบและหากว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ อาจปะทุความรุนแรงได้ทุกรูปแบบและลากยาวไปถึงครึ่งปีหลังแล้วละก็ เศรษฐกิจไทยก็จะเสียหาย ยับเยินมากขึ้น อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2557 อาจต้องปรับลดลงอีกจนต่ำกว่าร้อยละ 0 หรือติดลบก็เป็นได้ และกรณีที่เลวร้ายผลของเรื่องนี้อาจมีผลไปถึงปี 2558 ก่อนการเข้าสู่เออีซี ประเทศไทยจะเป็นเหมือนคนป่วยในบรรดาประเทศเพื่อนบ้านที่เข้มแข็งและเติบโต

4.ธนาคารพาณิชย์ก็ปรับแผนสินเชื่อ ลดเป้าการเติบโตจากเลขสองหลักมาเหลือหลักเดียวแล้วและขณะนี้แทบทุกสถาบันไม่ พูดกันเรื่องการเติบโตและจะหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพสินเชื่อไม่ ให้เกิดปัญหา การติดตามหนี้สินไม่ให้มีการค้างชำระ การบริหารความเสี่ยงที่เข้มแข็งแบบไม่ต่อรอง การปรับตัวดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจและธุรกิจช่วงต่อไปจะชะลอมากขึ้น เพราะกระแสเงินหมุนเวียนอาจไม่คล่องเหมือนช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จึงควรปรับตัวโดยเน้นการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ประหยัดให้มากกว่าเดิม และท้ายสุดชะลอหรือลดขนาดการลงทุน ทำเท่าที่จำเป็น การรักษาสภาพคล่องให้ดีจึงเป็นคาถาที่ไม่เพียงท่องบ่นแต่ต้องลงมือทำ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.