สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

พาณิชย์ชี้การเมืองไม่สงบ-ศก.ชะลอฉุดQ1ยอดบริษัทตั้งใหม่วูบ 22%
18/04/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

ยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ไตรมาสแรกลดลง 22%  รับเหมาก่อสร้างยังคงครองแชมป์ยอดจดทะเบียนสูงสุด  รองลงมาอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยเลี่ยงยังคงเป็นปัญหาการเมือง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในเดือนมีนาคม 2557 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่ว ประเทศจำนวน 5,248 ราย เพิ่มขึ้น 394 รายหรือเพิ่ม 8% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์2557 ซึ่งมีจำนวน  4,854 รายและลดลง 505 ราย  หรือลด 9%เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม2556 ซึ่งมีจำนวน  5,753 รายสำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนมีนาคม 2557  มีจำนวน 830ราย  มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนมีนาคม2557  มีจำนวนทั้งสิ้น 15,416ล้านบาท ลดลงจำนวน 3,116ล้านบาท  หรือลดลง 17%เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์2557 ซึ่งมีจำนวน 18,532 ล้านบาทและลดลงจำนวน 5,144  ล้านบาท หรือลดลง 25%เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม2556 ซึ่งมีจำนวน 20,560  ล้านบาท

ทั้งนี้ ธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน  595 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 228 รายขายส่งเครื่องจักร จำนวน 130 ราย ภัตตาคารร้านอาหารจำนวน 102 รายและธุรกิจจัดนำเที่ยวจำนวน 101 ราย โดย  ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน561,245  ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.77 ล้านล้านบาท  แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 389,342 รายบริษัทมหาชนจำกัด 1,046 รายและห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 170,857  ราย

สำหรับภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในไตรมาส1/2557 มีจำนวน 15,419 รายเพิ่มขึ้น 2,845 ราย หรือเพิ่ม23%เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2556 และลดลง 4,254 ราย หรือลดลง22% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาเนื่องจากการจดทะเบียนธุรกิจ ค้าสลากลดลง ความไม่สงบทางการเมืองที่มีมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม2556และจากการคาดการณ์ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)อัตราการเติบ โตทางเศรษฐกิจในปี2557 จะอยู่ที่ 2.7% ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ ปี 2556ที่ขยายตัว 2.9%ทำให้คาดว่าจำนวนการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ของปี2557จะมีจำนวนใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่การส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ในส่วนที่ได้มีการผูกพันไว้แล้วการมีรัฐบาลชุดใหม่ที่จะขับเคลื่อนนโยบายและ โครงการต่างๆการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวและสถานการณ์ทางการเมือง ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและการจดทะเบียนธุรกิจโดยรวม

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.