
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) มีการตั้งโรงงานใหม่และการขยายโรงงานลดลง เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง โดยเฉพาะที่พึ่งพาตลาดภายในประเทศ อาจชะลอการลงทุนออกไป รวมทั้งผู้บริโภคในประเทศมีความสามารถในการซื้อที่ลดลง และงดซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ เฟอร์นิเจอร์ โทรทัศน์ รถยนต์ เครื่องประดับ การบริการ การท่องเที่ยว เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น นอกจากนี้ การที่ไม่มีคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการเปิดกิจการใหม่และการขยายกิจการเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังหากการเมืองนิ่งจะส่งผลให้จำนวนการตั้งโรงงานใหม่และขยายกิจการมีอัตราการเติบโตแบบก้าว กระโดด แต่หากการเมืองยืดเยื้อก็ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อไปถึงแม้จะมี การแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ได้แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ 3 เดือนแรกปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) มีโรงงานประกอบกิจการใหม่ทั้งสิ้น 938 แห่ง ลดลงกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 9.02 มีการจ้างงาน 19,847 คน ลดลงร้อยละ 10.26 มูลค่าการลงทุน 47,474 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.45 อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนตั้งโรงงานสูงสุด คืออุตสาหกรรมผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ 87 แห่ง มีการจ้างงาน 2,471 คน มูลค่าการลงทุน 7,387 ล้านบาท
รองลงมากลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพืช 71 แห่ง มีการจ้างงาน 1,091 คน มูลค่าการลงทุน 2,551 ล้านบาท อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ 85 แห่ง มีการจ้างงาน 1,623 คน มูลค่าการลงทุน 2,530 ล้านบาท อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อโลหะ 111 แห่ง มีการจ้างงาน 1,566 คน มูลค่าการลงทุน 2,435 ล้านบาท อุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 29 แห่ง มีการจ้างงาน 1,548 คน มูลค่าการลงทุน 2,275 ล้านบาท อุตสาหกรรมอาหาร 68 แห่ง มีการจ้างงาน 1,488 คน มูลค่าการลงทุน 2,095 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาพื้นที่ตั้งโรงงานใหม่พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง (ไม่รวมกรุงเทพฯ) 54 แห่ง มูลค่าการลงทุน 6,779 ล้านบาท รองลงมาเป็นภาคตะวันออก 22 แห่ง มูลค่าการลงทุน 2,079 ล้านบาท ภาคใต้ 12 แห่ง มูลค่าการลงทุน 303 ล้านบาท
ส่วนการอนุญาตขยายกิจการมี 124 แห่ง ลดลง 19.48% มีการจ้างงาน 10,2078 ลดลง 40% มีการลงทุน 12,541 ล้านบาท ลดลง 51% โดยเป็นอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกมากที่สุด จำนวน 24 แห่ง จ้างงาน 2,328 คน ลงทุน 1,796 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมอาหาร 15 แห่ง มีการจ้างงาน 1,450 คน ลงทุน 2,756 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์อโลหะ 14 แห่ง จ้างงาน 542 คน ลงทุนเพิ่ม 403 ล้านบาท
การเลิกกิจการโรงงานในช่วง 3 เดือน แรกของปีนี้ มี 178 แห่ง ลดลง 49% การจ้างงานของกิจการที่เลิก 8,725 คน ลดลง 41% มูลค่าการลงทุนของกิจการที่เลิก 2,315 ล้านบาท ลดลง 64% โดยอุตสาหกรรมมีมูลค่าการเลิกกิจการมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมแปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ 21 แห่ง มีการจ้างงาน 626 คน มูลค่าการลงทุน 703 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรและเครื่องกล 11 แห่ง มีการจ้างงาน 263 แห่ง มูลค่าการลงทุน 203 ล้านบาท โดยถ้ามองการปิดกิจการของโรงงานที่มีการจ้างงานมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 2 แห่ง มีการจ้างงาน 3,344 คน มูลค่าการลงทุน 140 ล้านบาท อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายยกเว้นรองเท้า 5 แห่ง จ้างงาน 1,748 คน มูลค่าการลงทุน 261 ล้านบาท