สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

สินค้า-บริการไทยโตวันโตคืนในฟิลิปปินส์
02/04/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

จากความสำคัญของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ในฐานะประเทศคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในกลุ่มอาเซียน โดยในปี 2556 ที่ผ่านมาการค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่ารวมกว่า 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าและด้วยจำนวนประชากรของฟิลิปปินส์ที่มีเกือบ 100 ล้านคน ในขณะที่สินค้าที่ผลิตได้ในประเทศไม่เพียงพอต่อการบริโภค ทำให้ในแต่ละปีฟิลิปปินส์ต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้รัฐบาลไทยโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีภารกิจหลักในการเจาะตลาดส่งออก ได้เล็งเห็นประเทศฟิลิปปินส์เป็นตลาดที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก รวมถึงเหมาะแก่การลงทุนในหลากหลายธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ ดังนั้นระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมาจึงได้จัดงาน THAILAND WEEK 2014  ณ กรุงมะนิลา เป้าหมายเพื่อขยายการค้า-การลงทุนระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ให้เพิ่มมากขึ้น

+++เอสเอ็มอีร่วมงานคับคั่ง
    สำหรับการจัดงาน THAILAND WEEK ในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งทั้งสิ้น 77 บริษัทรวม 88 คูหา โดยเป็นผู้ประกอบการจากไทย 73 บริษัท 81 คูหา(ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี) ประกอบด้วย กลุ่มวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องจักรกล, อาหารและเครื่องดื่ม,เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และผ้าผืน,อัญมณี และเครื่องประดับ,ของขวัญและของตกแต่งบ้าน,สุขภาพและความงาม,ของใช้ในบ้าน และครัวเรือน และผู้ประกอบการที่สมัครผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ณ กรุงมะนิลา 4 บริษัท(เป็นตัวแทนจำหน่วยสินค้าไทยในฟิลิปปินส์)ในกลุ่มสินค้าอาหาร และของใช้ในบ้านและครัวเรือน

นันทวัลย์ ศกุนตนาค,ส่งออก,ตะวันออกกลาง

+++รายใหญ่ปักธง-SMEsมีโอกาส
    นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าปัจจุบันมีนักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในฟิลิปปินส์แล้วหลายราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุนราย ใหญ่ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) กลุ่มเอสซีจี ธุรกิจโรงแรมอย่างเครือเซ็นทารา และดุสิตธานี ส่วนแฟรนไชส์ของไทยที่นักธุรกิจฟิลิปปินส์ซื้อได้แก่ แบล็คแคนยอน สุกี้โคคา และแมงโก้ทรี เป็นต้น ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กยังไม่ค่อยมีมากนัก ดังนั้นงาน THAILAND WEEK 2014 จึงเป็นช่องทางและโอกาสของเอสเอ็มอีไทยในการหาลูกค้าในตลาดฟิลิปปินส์

+++อุปกรณ์เกษตรโตวันโตคืน
    นายเลิศ เลิศศิริโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยเลิศอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่าย อุปกรณ์การเกษตรประเภทท่อน้ำหยด ที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่า เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่บริษัทได้มาร่วมงาน THAILAND WEEK ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคู่ค้า เนื่องจาก ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีการปลูกอ้อยและมันสำปะหลังมากทางภาคกลางของประเทศ ดังนั้นอุปกรณ์การเกษตรท่อน้ำหยดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่ช่วยลด ต้นทุนทั้งค่าแรงและช่วยประหยัดน้ำ ซึ่งนอกจากฟิลิปปินส์แล้วบริษัทยังได้เข้าไปบุกตลาดในประเทศแถบอาเซียนไม่ ว่าจะเป็น เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงตลาดแอฟริกา และอเมริกาใต้ ได้แก่ เคนยา แอฟริกาใต้ และเปรู ที่มีการเพาะปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง
    "ภายในงานก็มีตัวแทนจำหน่ายฟิลิปปินส์สนใจสั่งซื้อสินค้าที่เรามานำเสนอ โดยบริษัทตั้งเป้าส่งออกปีนี้สัดส่วน 15-20% และขายในประเทศ80% สำหรับยอดขายถือว่าดีมากโตแบบก้าวกระโดดโดยปี2555 มีรายได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท ปี2556มีรายได้15 ล้านบาท และปีนี้เฉพาะไตรมาสแรกมียอดขายแล้วประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกเน้นอาเซียนเป็นหลัก"

+++ผลิตภัณฑ์มะขามเป็นที่นิยม
    ด้านนายนิวัตน์  โฆวงศ์ประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสวนผึ้งหวาน จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มะขามแบรนด์ "บ้านมะขาม" กล่าวว่า ชาวฟิลิปปินส์นิยมบริโภคมะขามหวานไทยมาก หากมาเที่ยวจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์มะขามกลับไป สำหรับตลาดฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกที่มาออกงานซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจาก คู่ค้าและผู้บริโภค การมาครั้งนี้ก็ได้ตัวแทนจำหน่ายในฟิลิปปินส์แล้วและมีออร์เดอร์แล้ว 1 ตู้คอนเทรนเนอร์  นับเป็นนิมิตหมายที่ดีหลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการไปบุกตลาดมาแล้วหลาย ประเทศทั้งออสเตรเลีย เมียนมาร์ เวียดนาม และจีน ทั้งนี้มองว่าตลาดอาเซียนหรือเออีซีเป็นตลาดที่มีช่องทางโอกาสอีกมากที่ สินค้าไทยจะเข้าไปบุกตลาด เฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าอาหาร
    "ในปีหน้า (2558) เราอาจจะปรับสัดส่วนการส่งออกเป็น20% จากเดิมส่งออกเพียง10% ส่วนที่เหลือจำหน่ายในประเทศในช่องทางต่างๆไม่ว่าจะเป็นเซเว่นอีเลฟเว่น ห้างโลตัส และห้างสรรพสินค้าต่างๆ"

+++แฟรนไชส์ร้านอาหารรุ่ง
    ด้านเจ้าของร้านแฟรนไชส์ อย่างสุกี้โคคาและร้านอาหารแมงโก้ทรี ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารได้รับการตอบรับที่ดีในฟิลิปปินส์ เนื่องจากการบริโภคอาหารของชาวฟิลิปปินส์จะคล้ายกับประเทศไทยเพียงแต่อาจมี การปรับเรื่องรสชาติบ้าง สำหรับธุรกิจสุกี้โคคาและแมงโก้ทรีเป็นการซื้อแฟรนไชส์มาบริหาร โดยเวลานี้ยังมีเพียงสาขาเดียวในกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการให้มีเพียงสาขาเดียวในแต่ ละเมืองเท่านั้น
    นางนันทวัลย์ กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับงาน THAILAND WEEK (Thailand Sourcing and Business Matching)เป็นงานที่ต้องการให้นักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจในประเทศนั้นๆ ได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลการค้า และร่วมทำธุรกิจระหว่างกัน ที่ผ่านมากรมได้มีการจัดงาน THAILAND WEEK ในตลาดอาเซียนและเอเชียแล้ว  15 ครั้งโดยการจัดงานแต่ละครั้งจะมีเอกชนทั้งไทยและเทศเข้าร่วมงานกันอย่างคับ คั่ง และมีคำสั่งซื้อภายในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,934 วันที่ 27 - 29  มีนาคม พ.ศ. 2557

 

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.