สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

ดัชนีSMEม.ค.57กลุ่มส่งออกดีขึ้น ตลาด”จีน-สหรัฐ-ญี่ปุ่น”ขยายตัว
13/03/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ SMEs เดือนมกราคม 2557  พบว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ SMEs มาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก ที่ส่งผลทั้งในด้านการใช้จ่ายภายในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ พบว่า การส่งออกของ SMEs มีมูลค่า 157,396.52 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น10 % จากเดือนเดียวกันของปี 2556  และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็น 9.42 % มูลค่าการส่งออกของ SMEs ต่อมูลค่าการส่งออกรวม คิดเป็นสัดส่วน 27.23 % ตลาดที่ SMEs ไทย มีการส่งสินค้าออกไปมากที่สุด ได้แก่ จีน มีมูลค่า 20,486.23 ล้านบาท รองลงมา คือ ญี่ปุ่น มูลค่า 15,936.39 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา มูลค่า 12,927.49 ล้านบาท มาเลเซีย มูลค่า 7,733.55 ล้านบาท และอินโดนีเซีย มูลค่า 7,617.65 ล้านบาท

“ตลาดหลักสำคัญของ SMEs ไทยเกือบทุกประเทศมีการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นอินโดนีเซียที่หดตัวลงเล็กน้อย ผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักดังกล่าว ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก คือ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ยางและของที่ทำด้วยยาง อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ” นายปฏิมา กล่าว

สำหรับการนำเข้าของ SMEs เดือนมกราคม 2557 มีมูลค่า 188,359.80 ล้านบาท หดตัวลง 26.96% จากเดือนเดียวกันของปี 2556 แต่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 6.82% มูลค่าการนำเข้าของ SMEs คิดเป็น 28.24% ของมูลค่าการนำเข้ารวมทั้งประเทศ ทั้งนี้ตลาดที่ SMEs นำเข้าสินค้ามากที่สุด คือ จีน รองลงมาคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสาธารณรัฐเกาหลี  ตามลำดับ สินค้าที่นำเข้ามากที่สุด คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ รองลงมาคือ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เหล็กและเหล็กกล้า ตามลำดับ

ขณะที่การจัดตั้งและยกเลิกกิจการ SMEs เดือนมกราคม 2557 พบว่า มีกิจการที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่ จำนวน 5,317 ราย หดตัวลง 35 % จากเดือนเดียวกันของปี 2556 แต่เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้น 83 % ประเภทกิจการที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัย ขายส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ให้คำปรึกษาด้านบริหารจัดการ และขายส่งวัสดุก่อสร้าง

ส่วนการจดทะเบียนยกเลิกกิจการ มีจำนวน 1,420 ราย ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18 % จากเดือนเดียวกันของปี 2556  แต่เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หดตัวลง 69 % ประเภทกิจการที่มีการยกเลิกมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ การขายสลากกินแบ่ง ก่อสร้างอาคารไม่ใช่ที่พักอาศัย อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เพื่อพักอาศัย ขนส่งและขนถ่ายสินค้า และให้คำปรึกษาด้านบริหารจัดการ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.