สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

สสว. เผยสถานการณ์ SMEs ม.ค.2557 ส่งออกยังโต
12/03/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

http://www.thanonline.com/images/stories/article2014/pajaree/Factory.jpg

สสว. เผยสถานการณ์ SMEs เดือนมกราคม 2557 ตัวเลขการส่งออกรวม 157,396.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.00 ตลาดส่งออกใหญ่ยังคงอยู่ที่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ส่วนกลุ่ม AEC มีมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นตลาดหลัก สินค้าส่งออกสำคัญ คือ อัญมณี พลาสติก และเครื่องจักร ด้านการจัดตั้งกิจการใหม่มีจำนวน 5,317 ราย ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 35 โดยกลุ่มขายสลากกินแบ่ง ก่อสร้างอาคารและอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เพื่อพักอาศัย ครองแชมป์ยกเลิกกิจการสูงสุด

นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ตามที่ สสว. มีบทบาทในการจัดทำและพัฒนาองค์ความรู้และฐานข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการเสนอ แนะนโยบายรวมถึงมาตรการในการส่งเสริม สนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs โดยทำการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ SMEs เดือนมกราคม 2557 พบว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ SMEs มาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก ที่ส่งผลทั้งในด้านการใช้จ่ายภายในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ พบว่าการส่งออกของ SMEs มีมูลค่า 157,396.52 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 10.00 และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 9.42 มูลค่าการส่งออกของ SMEs ต่อมูลค่าการส่งออกรวม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.23 ตลาดที่ SMEs ไทย มีการส่งสินค้าออกไปมากที่สุด ได้แก่ จีน มีมูลค่า 20,486.23 ล้านบาท รองลงมา คือ ญี่ปุ่น มูลค่า 15,936.39 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา มูลค่า 12,927.49 ล้านบาท มาเลเซีย มูลค่า 7,733.55 ล้านบาท และอินโดนีเซีย มูลค่า 7,617.65 ล้านบาท 
 
“ตลาดหลักสำคัญของ SMEs ไทยเกือบทุกประเทศมีการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกัน ของปีก่อน ยกเว้นอินโดนีเซียที่หดตัวลงเล็กน้อย ผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักดังกล่าว ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก คือ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ยางและของที่ทำด้วยยาง อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ” นายปฏิมา กล่าว 
 
ในส่วนการนำเข้าของ SMEs เดือนมกราคม 2557 มีมูลค่า 188,359.80 ล้านบาท หดตัวลงจากเดือนเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 26.96 แต่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 6.82 มูลค่าการนำเข้าของ SMEs คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.24 ของมูลค่าการนำเข้ารวมทั้งประเทศ ทั้งนี้ตลาดที่ SMEs นำเข้าสินค้ามากที่สุด คือ จีน รองลงมาคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสาธารณรัฐเกาหลี  ตามลำดับ สินค้าที่นำเข้ามากที่สุด คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ รองลงมาคือ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เหล็กและเหล็กกล้า ตามลำดับ 
 
สำหรับการจัดตั้งและยกเลิกกิจการ SMEs เดือนมกราคม 2557 พบว่า มีกิจการที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่ จำนวน 5,317 ราย หดตัวลงจากเดือนเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 35 แต่เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 83 ประเภทกิจการที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัย ขายส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ให้คำปรึกษาด้านบริหารจัดการ และขายส่งวัสดุก่อสร้าง 
 
 ส่วนการจดทะเบียนยกเลิกกิจการ มีจำนวน 1,420 ราย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 18 แต่เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หดตัวลงคิดเป็นร้อยละ 69 ประเภทกิจการที่มีการยกเลิกมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ การขายสลากกินแบ่ง ก่อสร้างอาคารไม่ใช่ที่พักอาศัย อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เพื่อพักอาศัย ขนส่งและขนถ่ายสินค้า และให้คำปรึกษาด้านบริหารจัดการ 
 
อย่างไรก็ดี ในการส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโต เข้มแข็งและยั่งยืน ในปี 2557 นอกจาก สสว. จะดำเนินการผ่านโครงการต่างตามแผนงานที่กำหนดแล้ว ล่าสุดได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน ดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทาง การเมือง ทั้งด้านการเงิน การตลาด และการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ เพื่อบรรเทาผลกระทบ และสนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจได้ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน โดยผู้ประกอบการสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สสว. Call Center 1301 หรือ www.sme.go.th

 

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.