จีนผงาดเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยแซงญี่ปุ่นรอบ 22 ปี หอการค้าไทยชี้ผลพวงจากเศรษฐกิจจีนยังขยายตัวได้ดีกว่าญี่ปุ่น ไทยหันพึ่งบริการส่งออก-นำเข้าเพิ่ม ลดพึ่งพาตลาดอื่นทั้งญี่ปุ่น สหรัฐฯ อียู หลังเศรษฐกิจปี 2556 ย่ำแย่ ขณะที่สภาผู้ส่งออกชี้สัญญาณอันตรายสินค้าจีนสั่งบุกตลาดไทยและอาเซียนมากขึ้น จับตาเอสเอ็มอีทยอยม้วนเสื่อ

จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาวการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทย(ส่งออก+นำเข้า)ในปี 2556 พบมีนัยสำคัญเมื่อจีนได้แซงญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในรอบ 22 ปี (ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยมาตั้งแต่มีบันทึกสถิติการค้าตั้งแต่ปี 2534) โดยในปี 2556 การค้าไทย-จีนมีมูลค่ารวม 1.98 ล้านล้านบาท ขยายตัวลดลงจากปี 2555 ในอัตรา -0.51% (จากปี 2555 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1.99 ล้านล้านบาท) ขณะที่การค้าไทย-ญี่ปุ่น มีมูลค่า 1.92 ล้านล้านบาท ขยายตัวลดลงในอัตรา 15.28% (จากปี 2555 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 2.27 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้สินค้าส่งออกของไทยไปจีนในปี 2556 5 อันดับแรก ได้แก่ ยางพารา, เคมีภัณฑ์, เม็ดพลาสติก, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวในอัตรา +2.45, +7.19, +8.86, -43.00 และ +6.96% ตามลำดับ ส่วนการนำเข้าของไทยจากจีน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย เครื่องจักรไฟฟ้า และส่วนประกอบ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, เครื่องจักรกล และส่วนประกอบ, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ ขยายตัวในอัตรา +1.78, -2.18, -1.84, -18.67 และ +2.66% ตามลำดับ (ไทยขาดดุลการค้าจีน ปี 2556 มูลค่า 3.30 แสนล้านบาท)
ส่วนสินค้าส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นปี 2556 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ,ไก่แปรรูป, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ, ยางพารา และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัว -20.91, -7.49, -22.40, -14.56 และ -11.65% ส่วนการนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นของไทย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย เครื่องจักรกล และส่วนประกอบ, ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ , เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์, เครื่องจักรไฟฟ้า และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ ขยายตัวในอัตรา -27.00, -12.91, -11.06, -25.79, -6.91% ตามลำดับ (ปี 2556 ไทยขาดดุลการค้าญี่ปุ่น 5.84 แสนล้านบาท)

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย ให้ความเห็นว่า การที่การค้าไทย-จีน แซง ไทย-ญี่ปุ่น น่าจะเป็นผลจากในปีที่ผ่านมา 3 ตลาดหลักของไทย ประกอบด้วย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) มีปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังขยายตัวแม้จะเป็นอัตราที่ชะลอตัวลง ทำให้การส่งออก-นำเข้าของไทยหันมาพึ่งตลาดจีนมากขึ้น ประกอบกับตลาดจีนมีขนาดใหญ่ มีคนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
"มองว่าการค้าไทย-ญี่ปุ่นในปีนี้มีโอกาสจะแซงการค้าไทย-จีนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เหมือนเดิมได้ เพราะส่วนใหญ่สินค้าที่ญี่ปุ่นส่งมาไทยเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องจักรอุปกรณ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ สินค้าไฮเทคฯ ส่วนสินค้าไทยที่ส่งออกไปจีนส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรพื้นฐาน เช่น ยางพารา ผลไม้ ข้าว ที่มูลค่าไม่สูง ขณะที่สินค้าส่งออกของจีนมาไทยเฉลี่ยมูลค่าต่ำกว่าสินค้าญี่ปุ่น"

ด้านนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออกระบุว่าการค้าไทย-จีนที่ขยายตัวแซงการค้าไทย-ญี่ปุ่น ชี้ให้เห็นว่าแม้ปัจจุบันจีนจะหันไปพึ่งพาการบริโภคภายในเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทิ้งการส่งออก และเวลานี้จีนก็มีความสำคัญกับไทย ทั้งในฐานะคู่ค้าที่ไทยมีการนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น อีกด้านหนึ่งสินค้าจีนก็เป็นคู่แข่งสินค้าไทย ซึ่งสินค้าจีนมีความได้เปรียบ เพราะผลิตได้หลายระดับคุณภาพ แต่ราคาไม่ปรับขึ้น และขณะนี้สินค้าจีนก็ได้รุกมายังตลาดไทย และอาเซียนเพิ่มขึ้น ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯและอียูลง ถือเป็นสัญญาณอันตรายเพราะอาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตสินค้าเอสเอ็มอีของไทยมากขึ้นทุกขณะ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,923 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557