
ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ชี้การเมืองยืดเยื้อ ตั้งรัฐบาลไม่ได้ในครึ่งปีแรก เศรษฐกิจไทยเดี้ยงอาจขยายตัวแค่ 2.4% หวังส่งออกกระเตื้องช่วยปั๊มให้โต 3%
5 ก.พ.2557 นางสุทธาภา อมรวิวัฒน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ความไม่สงบทางการเมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญและอาจทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 2.4% หากการเมืองยืดเยื้อไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับ 3% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้นจากการฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การส่งออกที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ 6%
"ประเด็นความเสี่ยงหลักต่อเศรษฐกิจมาจากการเมืองที่ยืดเยื้อ หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในครึ่งปีแรก อีไอซีประเมินว่าเศรษฐกิจอาจจะขยายตัวได้เพียง 2.4% เท่านั้น" นางสุทธาภากล่าว
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สทร.) กล่าวว่า เชื่อว่าในไตรมาสแรกนี้การส่งออกสินค้าทางเรือยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง โดยในเดือนมกราคมการส่งออกยังขยายตัวได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคู่ค้ามีคำสั่งซื้อล่วงหน้าและมีซัพพลายเชนภายในประเทศที่แข็งแกร่ง จึงมองว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวได้ 5% แต่ก็ยังกังวลใน 3 ด้าน ที่ถือเป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย ได้แก่ ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง ปัญหาการเมืองที่เป็นสุญญากาศยาวนานและภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน
"ในช่วงรัฐบาลสุญญากาศขณะนี้ เอกชนต้องรวมตัวกันและช่วยเหลือกันเอง โดยเฉพาะธุรกิจใหญ่ต้องช่วยรายเล็ก เรียกว่าภาคเอกชนก็ต้องปฏิรูปสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ จะทำอะไรเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้เราเจอความเสี่ยงพร้อมกันสามเด้ง ซึ่งเชื่อว่าเอกชนจะทำได้เป็นกำลังหลักของการส่งออกและเศรษฐกิจ" นายนพพร กล่าว
ด้าน นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สทร. กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าทางอากาศ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยน้อยลง ทำให้จำนวนเที่ยวบินที่เข้ามาไทยลดลงด้วย ส่งผลต่อเนื่องให้ระวางการขนส่งสินค้าทางอากาศลดลงค่าระวางการขนส่งจึงปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้การเรียกเก็บค่าความเสี่ยงในการขนส่งออกก็เพิ่มขึ้น จากการประกาศ พ.ร.ก.ดังกล่าวและยังส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ซื้อต่างชาติ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว
สำหรับผลกระทบจากปัญหาการเมืองต่อการส่งออกนั้นในระยะสั้นคงกระทบไม่มาก แต่ระยะยาวจะกระทบต่อสินค้าที่ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และได้รับการตรวจสอบจากต่างชาติ เพราะคู่ค้าต่างชาติลดการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย หากสถานการณ์ยืดเยื้อก็อาจจะย้ายไปซื้อจากประเทศอื่นได้ รวมทั้งงานแสดงสินค้าต่างๆ ในประเทศไทย จะมีผู้ซื้อต่างชาติเข้ามาเลือกซื้อสินค้าลดลงอย่างมาก
"แต่ละองค์กรเอกชนจะต้องหาทางช่วยเหลือกันเองให้มากที่สุดอย่าหวังพึ่งพาภาครัฐอีกเลย มั่นใจว่าอีก 1 ปี ไม่มีทางที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยภาคเอกชนได้ เพราะดูจากงบประมาณภาครัฐก็ยังไม่เห็นแนวทางว่าจะเข้ามาช่วยอะไรได้ ขนาดที่ทำงานยังต้องย้ายไปย้ายมาหาที่ทำงานเป็นหลักแหล่งไม่ได้" นายวัลลภ กล่าว