
ผู้จัดการกองทุนแนะปรับพอร์ตหนีการเมืองไทยวิกฤติ บลจ.ยูโอบีฯ ให้เพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว 60 % ชูสหรัฐฯ ทิสโก้เวทธ์ เชียร์หุ้นญี่ปุ่น-เอเชียเหนือ เหตุรับอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้นหนุนส่งออกโต ชี้บจ.แดนปลาดิบโดดเด่นหลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 กำไรออกมาดีกว่าคาด ส่วนปัญหาค่าเงินในตลาดเกิดใหม่กระทบระยะสั้น ภายใต้สถานการณ์การเมืองไทยที่ยืดเยื้อและยังไม่มีทางออก ขณะที่มีปัจจัยบวกเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว "ฐานเศรษฐกิจ"สำรวจผู้จัดการกองทุนถึงคำแนะนำการจัดพอร์ตลงทุน

นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ สายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ยูโอบี(ประเทศไทย) จำกัด แนะนำการจัดพอร์ตลงทุนปี 2557 ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว โดยให้ลงทุนในหุ้นถึง 80% และเทน้ำหนักลงทุนตลาดประเทศพัฒนาแล้ว 60% ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาน่าสนใจมากที่สุด รองลงมาเป็นตลาดหุ้นญี่ปุ่น และยุโรปบางประเทศ
ส่วนตลาดหุ้นเกิดใหม่ยอมรับว่าบลจ.ยูโอบีฯ ได้ลดน้ำหนักลงทุนจากเดิม 70 %เหลือ 20%ในปีนี้ โดยได้ลดการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากหุ้นตลาดเกิดใหม่มาจากตลาดหุ้นไทย 90 %สาเหตุที่แนะนำให้ลดน้ำหนักหุ้นไทย เนื่องจากปัญหาการเมืองที่ยังไม่ชัดเจนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของ เศรษฐกิจ
นอกจากนี้แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นและถือเงินสด สัดส่วน 10 % และอีก 5%แนะนำลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และปีนี้ไม่ใช่ปีที่ควรลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงทองคำด้วย
นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ ซึ่งให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนในกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่าทิสโก้ เวลธ์ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น และแนะนำให้ใช้การปรับฐานของตลาดหุ้นในรอบนี้เป็นโอกาสเข้าลงทุน โดยมีคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ ดังนี้ 1. แนะนำซื้อตลาดหุ้นญี่ปุ่น 2. แนะนำซื้อสะสมตลาดหุ้นเอเชียเหนือ และ 3. ลดน้ำหนักการลงทุนในทองคำและน้ำมัน
ทั้งนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนอันดับต้น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนในขณะนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เริ่มเห็นผลมาก ขึ้น และล่าสุดบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นนิกเกอิ( Nikkei) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 แล้ว 98 บริษัท (ของปีปฏิทิน) โดยผลกำไรรวมออกมาดีกว่าคาด 15.26% และมีบริษัทที่ผลประกอบการดีกว่าคาดถึง 65 จาก 98 บริษัท ขณะที่ตลาดคาดการณ์การเติบโตของผลประกอบของปี 2556 จะอยู่ที่ 60%
ด้านตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ซึ่งประกอบด้วย จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ มีความน่าสนใจลงทุนไม่แพ้กัน แม้จะมีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ที่ทำให้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ถูกเทขายอย่างหนักเพื่อลดความเสี่ยงก็ตาม นำโดยจีนซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง
โดยทิสโก้ เวลธ์ มองว่า ตลาดหุ้นเอเชียเหนือจะได้ผลกระทบเพียงระยะสั้น เนื่องจากประเทศในกลุ่มดังกล่าวมีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินทุนต่างชาตินอกจากนี้ประเทศใน กลุ่มเอเชียเหนือยังนับว่าเป็นประเทศส่งออกสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และค่าเงินที่มีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสามารถกระตุ้นยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปอีกด้วย
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลฯ แนะนำกระจายการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมสำหรับพอร์ตการลงทุนระดับปานกลางที่แบ่งสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ เสี่ยงอย่างหุ้นประมาณ 60 % และตราสารหนี้ 40 % โดยที่แนะนำลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่เป็นหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10-20 % คือ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ส่วนหุ้นไทยแนะนำให้ลงทุนเพียง 50 % เท่านั้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,921 วันที่ 9 - 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557