สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

ไทยพาณิชย์มองแนวโน้มการส่งออกของไทยปี 57 ขยายตัวได้ 6.0%
08/02/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

alt

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC ออกบทวิเคราะห์ การส่งออกไทยยังไม่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ระบุว่ากระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนธันวาคมอยู่ที่ 18.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 1.9%YOY (เทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า) ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 18.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 9.9% ดุลการค้าขาดดุล 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของทั้งปี 2013 อยู่ที่ 228.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 0.2% จากปี 2012

การส่งออกไทยปี 2013 ย่ำแย่ โดยเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทั้งจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลให้การส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าหลักของไทยหดตัวค่อนข้างมากในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญ เช่น ยางพาราและน้ำตาล หดตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ปริมาณการส่งออกกุ้งได้ลดลงอย่างมากจากการระบาดของโรคกุ้งตายด่วน
        
การส่งออกเดือนธันวาคมขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แต่มูลค่ายังอยู่ในระดับต่ำ โดยการส่งออกเดือนธันวาคมกลับมาขยายตัว 1.9%YOY หลังจากหดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายน อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกในเดือนธันวาคมกลับต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน ทั้งที่โดยปกติแล้วมูลค่าการส่งออกของไทยในช่วงปลายปีจะสูงกว่าช่วงกลางปี โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปมีมูลค่าและอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกไปญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้หดตัว เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกในระดับต่ำบ่งชี้ว่าอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่ส่งผ่านมาถึงความต้องการสินค้าของไทย
        
การส่งออกในสินค้าที่เคยเป็นปัญหาอย่างคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และยางพาราดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบหดตัวอย่างรุนแรง การส่งออกคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และการส่งออกยางพาราขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและขยายตัวได้ในอัตราที่สูงขึ้น โดยในเดือนธันวาคมการส่งออกสินค้าทั้ง 2 ชนิดขยายตัวได้ราว 4.5% และ 18.6% ตามลำดับ อย่างไรก็ดีการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบซึ่งมีสัดส่วนต่อการส่งออกทั้งหมด ราว 10% หดตัวถึง 18.3% และเป็นการหดตัวลงในทุกตลาดหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดอันดับ 2 ของไทยหดตัวอย่างรุนแรงถึง 60.5% ตามความต้องการรถยนต์ของอินโดนีเซียที่ลดลง
        
การนำเข้าหดตัวอย่างรุนแรงจากการชะลอการลงทุน และผลของฐานสูงในหมวดการนำเข้าส่วนประกอบรถยนต์ การนำเข้าหดตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และยังมีมูลค่าต่ำที่สุดของปี การหดตัวที่ค่อนข้างมากและต่อเนื่องเป็นผลจากการชะลอการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งสะท้อนจากการหดตัวในระดับสูงของการนำเข้าเครื่องจักร และจากการนำเข้าสินค้ารถยนต์และส่วนประกอบที่ลดลงจากผลของฐานสูงในช่วงปลาย ปี 2012 ที่มีการเร่งเพื่อการผลิตรถยนต์ในโครงการรถคันแรก
        
ดุลการค้าขาดดุล 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี หากไม่รวมทองดุลการค้าจะเกินดุลประมาณ 355 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  

อีไอซี ประเมินการส่งออกปี 2014 มีศักยภาพขยายตัวได้ราว 6.0% การส่งออกในปี 2014 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปี 2013 โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ในแง่ของรายสินค้านั้น การส่งออกสินค้าหลักอย่างรถยนต์จะขยายตัวได้ในระดับสูง จากการหันมามุ่งเน้นตลาดต่างประเทศมากขึ้นของผู้ผลิต เนื่องจากตลาดในประเทศยังคงซบเซา นอกจากนี้ราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจะสนับสนุนให้มูลค่าส่ง ออกสินค้าเกษตรของไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.