ประเด็นสำคัญ
? วิกฤตค่าเงินเปโซอาร์เจนตินากระตุ้นให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกอีกระลอก โดยสินทรัพย์/สกุลเงินของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะตุรกีและประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกา เผชิญแรงเทขายอย่างหนักท่ามกลางความกังวลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศในช่วงจังหวะที่เศรษฐกิจจีนยังชะลอตัว และธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าทยอยปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนของมาตรการ QE อย่างต่อเนื่อง
? ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะยังคงส่งผลกดดันค่าเงินของประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และไทยในช่วงที่เหลือของปี 2557 นี้ อย่างไรก็ดี ประเมินว่าผลกระทบต่อประเทศในกลุ่มอาเซียนน่าที่จะอยู่ในขอบเขตจำกัด เนื่องจากฐานะทางเศรษฐกิจมหภาคที่ค่อนข้างมั่นคง รวมถึงศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงข้างหน้า ที่น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบในระยะสั้น
? สำหรับผลจากปัญหาของอาร์เจนตินาที่มีต่อไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าอาจทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยไปยังอาร์เจนตินาในปี 2557 หดตัวไม่ต่ำกว่า 10-15% ซึ่งอาจกระทบภาพรวมของการส่งออกไทยประมาณ 0.1% อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่าหากสัญญาณที่อ่อนแอแผ่กระจายไปยังตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคอื่นๆ ก็อาจทำให้แรงหนุนจากตลาดส่งออกศักยภาพที่ถูกคาดหวังว่าจะมีบทบาทช่วยหนุนการฟื้นตัวของการส่งออกไทยในปี 2557 ลดน้อยลงตามไปด้วย
ความผันผวนของตลาดหุ้นและสกุลเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน การคาดการณ์เกี่ยวกับการเดินหน้าชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (มาตรการ QE) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลอดจนภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและพื้นฐานเศรษฐกิจที่อ่อนแอของบางประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาร์เจนตินา ตุรกี และสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคลาตินอเมริกาและเอเชีย
ปัญหาค่าเงินเปโซอาร์เจนตินา…แรงกดดันอีกระลอกของสินทรัพย์กลุ่มตลาดเกิดใหม่
? ต้นตอของปัญหาค่าเงินเปโซอาร์เจนตินา
ทางการอาร์เจนตินาได้ผลักดันหลายมาตรการออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อสกัดการไหลออกของเงินทุน ซึ่งรวมไปถึงการยื่นข้อเสนอการชำระหนี้บางส่วนให้กับกลุ่มปารีสคลับ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศและการประกาศมาตรการเพิ่มเติมในการจำกัดการใช้เงินตราต่างประเทศของประชาชน (อาทิ การเก็บภาษีในอัตรา 50% ของธุรกรรมการซื้อสินค้าทางออนไลน์หากวงเงินสูงกว่า 25 ดอลลาร์ฯ) อย่างไรก็ดี ดูเหมือนกับว่าความสูญเสียของทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับประมาณ 1.0 พันล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือนตลอดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จะกลายเป็นต้นตอที่นำไปสู่แรงกดดันอย่างหนักต่อค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินา จนทำให้ธนาคารกลางอาร์เจนตินาจำต้องหยุดการแทรกแซงตลาดเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา และตามมาด้วยการประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการซื้อเงินดอลลาร์ฯของประชาชนซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 ม.ค. 2557
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ก่อนจะวิเคราะห์ต้นตอที่แท้จริงของวิกฤตความไม่เชื่อมั่นต่อค่าเงินเปโซนั้น คงต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งก่อนว่า นอกจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาจะอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง (เศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อสูง ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด) ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแล้ว ธนาคารกลางอาร์เจนตินาเองก็ประสบความล้มเหลวในการเข้าจัดการอย่างเด็ดขาดกับความไร้เสถียรภาพในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ค่าเงินเปโซเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ที่ซื้อขายในตลาดมืด มีความแตกต่างกับอัตราทางการถึงประมาณ 70% ดังนั้น การเข้าพยุงค่าเงินเปโซอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดการสูญเสียทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างยากจะหลีกเลี่ยง อนึ่ง ทุนสำรองฯของอาร์เจนตินาลดต่ำลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปีที่ 2.498 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่มีการประเมินกันว่า อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงในปี 2556 อาจสูงถึง 28.4% สวนทางกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าระดับ 5.0% โดยเฉลี่ยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
? ความปั่นป่วนกระจายตัวในหลายตลาดเกิดใหม่
ไม่เพียงแต่ค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินาเท่านั้น สินทรัพย์/สกุลเงินของประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ทั้งในลาตินอเมริกา เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ ก็เผชิญกับบททดสอบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยประเทศที่อาจได้รับผลกระทบจากการปรับโพสิชั่นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน ได้แก่ ตุรกี แอฟริกาใต้ รัสเซีย ชิลี เม็กซิโก บราซิล และเวเนซูเอล่า เพราะนอกจากประเทศเหล่านี้จะมีปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอแล้ว บางประเทศยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอีกด้วย

ทั้งนี้ หากประเมินว่าการส่งสัญญาณของ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ที่ระบุถึงการเตรียมปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนภายใต้มาตรการ QE ในช่วงเดือนพ.ค. 2556 เป็นเหตุการณ์ที่จุดกระแสการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงระลอกแรกแล้ว การทรุดตัวลงอย่างหนักในรอบ 12 ปีของค่าเงินเปโซอาร์เจนตินาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2557 ที่ผ่านมา ก็น่าจะถือเป็นสถานการณ์ที่กระตุ้นความปั่นป่วนให้กับสินทรัพย์กลุ่มตลาดเกิดใหม่ตามมาเป็นระลอกที่สองในปีนี้ โดยทันทีที่ธนาคารกลางอาร์เจนตินาได้ยุติการปกป้องค่าเงินเพื่อลดการสูญเสียทุนสำรองระหว่างประเทศ ค่าเงินเปโซก็ดิ่งลงอย่างรุนแรงถึง 11.9% (นับเป็นการอ่อนค่ารายวันที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การประกาศลดค่าเงินครั้งใหญ่ในปี 2545) ไปทุบสถิติอ่อนค่าสุดในประวัติการณ์และเมื่อประกอบภาพเข้ากับปัญหาความไร้เสถียรภาพของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อีกหลายประเทศ ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่เกิดขึ้นท่ามกลางกระบวนการทยอยถอยออกจากมาตรการ QE ของเฟด จึงส่งผลทำให้สินทรัพย์/สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่เผชิญแรงกดดันถ้วนหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน นำโดยเงิน Lira ของตุรกี (มีแรงกดดันจากวิกฤตการเมือง) ที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่เงิน Rand ของแอฟริกาใต้ และ เงิน Ruble ของรัสเซียนั้น อ่อนค่าแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ซึ่งก็สอดคล้องกับทิศทางการอ่อนค่าของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคลาตินอเมริกาและเอเชีย และสวนทางกับการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อาทิ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี ทองคำ รวมถึงเงินเยน และเงินฟรังก์สวิส

ผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย...เมื่อเศรษฐกิจอาร์เจนตินาเผชิญวิกฤตหลายด้าน
แม้เศรษฐกิจโลกในปี 2557 มีแนวโน้มสดใสขึ้น ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น แต่ในทางกลับกันประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ในหลายภูมิภาค เช่น ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาที่เคยเป็นตัวนำการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอยู่ในขาลงนั้น กลับมีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ และเสี่ยงต่อการลุกลามจนกลายเป็นวิกฤตในอนาคต โดยเฉพาะประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจอ่อนแออย่างอาร์เจนตินา และอาจส่งผลกระทบออกไปเป็นวงกว้างทั่วทั้งภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมถึงตลาดเกิดใหม่อื่นๆ
ทั้งนี้ การเกิดวิกฤตในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ที่นับเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสูงของไทย ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับอาร์เจนตินานั้นนับเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกา รองจากบราซิลและเม็กซิโก ทั้งนี้ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556 ไทยและอาร์เจนตินามีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 1,998 ล้านดอลลาร์ฯ โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าประมาณ 70 ล้านดอลลาร์ฯ พลิกจากเดิมที่เกินดุลราว 295 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2555 โดยสินค้าส่งออกหลักของไทย ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ กากถั่วเหลือง และถั่วเหลือง โดยในปีที่ผ่านมา อาร์เจนตินาได้กลายเป็นแหล่งนำเข้ากากถั่วเหลืองอันดับ 1 ของไทยแทนที่บราซิล

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เปราะบาง รวมถึงวิกฤตค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินาอาจกดดันให้มูลค่าการส่งออกของไทยไปยังอาร์เจนตินาในปี 2557 พลิกกลับมาหดตัวไม่ต่ำกว่า 10-15% จากที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 9.0% ในปี 2556 โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล/ส่วนประกอบ
นอกจากนี้ คงต้องยอมรับว่า หากวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศอาร์เจนตินาลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกาก็อาจส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น โดยในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. 2556 ไทยมีการส่งออกไปยังภูมิภาคลาตินอเมริกาเป็นมูลค่า 7,618.9 ล้านดอลลาร์ฯ และนำเข้าเป็นมูลค่า 4,517.5 ล้านดอลลาร์ฯ โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับลาตินอเมริกามาตั้งแต่ปี 2549 ทั้งนี้ตลาดลาตินอเมริกาถือว่ามีความสำคัญต่อภาคการส่งออกของไทยมากขึ้นเป็นลำดับ เห็นได้จากสัดส่วนต่อการส่งออกทั้งหมดของไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี โดยสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังตลาดลาตินอเมริกาเป็นหลัก ได้แก่ ยานยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยางพารา เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รวมไปถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ไทยนำเข้ากากถั่วเหลืองและถั่วเหลืองมากถึง 40% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดจากลาตินอเมริกา

โดยสรุป แม้วิกฤตความเชื่อมั่นที่มีต่อค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินา จะกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักในสินทรัพย์/สกุลเงินของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อีกระลอก ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวได้ส่งผลปกคลุมบรรยากาศของตลาดการเงินไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียบางส่วนด้วยเช่นกัน แม้ว่าการตอบสนองของตลาดเอเชียในรอบนี้อาจจะไม่รุนแรงเด่นชัดเหมือนกับในปี 2556 ที่ผ่านมา
?ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะยังคงส่งผลกดดันค่าเงินของประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Economies) รวมถึงไทยในช่วงที่เหลือของปี 2557 นี้ อย่างไรก็ดีประเมินว่าผลกระทบต่อประเทศในกลุ่มอาเซียนน่าที่จะอยู่ในขอบเขตจำกัด เนื่องจากฐานะทางเศรษฐกิจมหภาคที่ค่อนข้างมั่นคง รวมถึงศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงข้างหน้า ที่น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบในระยะสั้น ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2557 นี้ ที่ 2.2-3.7% โดยมีค่ากลางที่ 3.0%
สำหรับผลกระทบจากปัญหาในอาร์เจนตินาที่มีต่อไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า สินค้าส่งออกของไทยบางรายการ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักรกล อาจเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจและค่าเงินเปโซที่เปราะบางของอาร์เจนตินา โดยคาดว่าการส่งออกของไทยไปยังอาร์เจนตินาอาจพลิกกลับมาหดตัวไม่ต่ำกว่า 10-15% ในปี 2557 และอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกโดยรวมของไทยประมาณ 0.1% อย่างไรก็ดีคงต้องยอมรับว่าหากสัญญาณที่อ่อนแอแผ่กระจายไปยังตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคอื่นๆ ก็อาจทำให้แรงหนุนจากตลาดส่งออกศักยภาพที่ถูกคาดหวังว่าจะมีบทบาทช่วยหนุน การฟื้นตัวของการส่งออกไทยในปี 2557 ลดน้อยลงตามไปด้วย