ธ.ก.ส.เผยทุ่มงบสินเชื่อกว่า 3,500 ล้านบาท สนับสนุนเกษตรกรไทยหันมาใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบ เนื่องจากรัฐบาลไทยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้เครื่องจักรกล การเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและผลักดันให้ไทยก้าวเป็นศูนย์กลาง เครื่องจักรกลการเกษตรของอาเซียน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย (สกท.) จัดสัมมนาในหัวข้อ “เทคนิคการเลือกซื้อเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรให้คุ้มค่าได้อย่างไร”ณ ห้องสุธรรมอารีกุล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมฟังการสัมมนาในครั้งนี้มากกว่า 100 คน
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกล่าวว่า ธ.ก.ส ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรมานานกว่า 40 ปี ใน ช่วง 3 ปีหลัง ธ.ก.ส ได้สนับสนุนสินเชื่อด้านเครื่องจักรเป็นมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมซื้อรถไถเพื่อช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลาการทำงาน เกษตรกรส่วนใหญ่สามารถส่งเงินชำระค่างวดได้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดและถึงจุดคุ้มทุนได้ในเวลาไม่นาน
ธ.ก.ส ยืนยันจะสนับสนุนให้เกษตรกรเลือกซื้อเครื่องจักรกลต่อไปเพื่อช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตของไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน อย่างไรก็ตามสินเชื่อก็เปรียบเสมือนดาบสองคม หากไม่จัดการวางแผนอย่างรัดกุม อาจเพิ่มภาระหนี้สินให้แก่เกษตรกรได้ ดัง นั้นการอนุมัติสินเชื่อแก่เกษตรกรจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ผมอยากฝากให้เกษตรกรช่วยดูแลใส่ใจในเรื่องการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลด้วย เพื่อใช้งานเครื่องจักรกลได้อย่างคุ้มค่าและได้ประโยชน์สูงสุด
นางดาเรศร์ กิตติโยภาส ผู้อำนวยการกองส่งเสริมวิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในอดีตการนำเข้าเครื่องจักรกลไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เนื่องจากแรงงานจำนวนมาก แตกต่างจากปัจจุบัน ที่แรงงานทางภาคเกษตรเหลือเพียง 35% เกือบครึ่งเป็นแรงงานที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรในอีก 10-20 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ผู้ใช้เครื่องจักรกลจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างถูกต้องมีความรู้เรื่องการเงินบัญชีว่าควรบริหารการเงินอย่างไรหากเครื่องจักรเสีย นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินมาตรการส่งเสริมการเกษตรแบบรวมกลุ่ม เพื่อสนับสนุนความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องจักรแต่ละชนิด รวมทั้งสนับสนุนให้มีช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลในระดับท้องถิ่นเพื่อรองรับการเติบโตของการใช้เครื่องจักรในอนาคต
ด้านนายสุรจิตร วันแพ ผู้อำนวยการกลุ่ม 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า คนไทยส่วนใหญ่ทนแรงกดดันจากการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้ก็จะกลับภูมิลำเนาไปทำอาชีพเกษตรและใช้เครื่องจักรกลเพื่อทุนแรง แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้เครื่องจักรกลอย่างเหมาะสม
ที่ผ่านมา เครื่องจักรกลยี่ห้อคูโบต้าเป็นที่นิยมของคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านทั้งๆ ที่มีราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ เนื่องจากคูโบต้าเข้าใจกลไกมาตรฐานของเครื่องจักร แต่การใช้งานเครื่องจักรกลของคนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีลักษณะแตกต่างกัน ในต่างประเทศ ผู้ใช้จะเลือกซื้อ สินค้าด้วยตัวเอง จึงได้รับประโยชน์จากการใช้งานสูงสุด แต่เมืองไทย ผู้ใช้ไม่ได้ซื้อโดยตรง จึงใช้งานเครื่องจักรได้ไม่คุ้มค่าแถมมีหนี้สินจากการซื้อเครื่องจักรมากกว่า
นายเฉิน จิง เฉิน ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรเครื่องจักรกลการเกษตร จากประเทศไต้หวัน กล่าวว่า ประเทศไต้หวันมีข้อจำกัดในพื้นที่ทำการเกษตรก่อนการลงทุน อันดับแรกเกษตรกรจะต้องคำนวณว่าจะได้รับผลตอบแทนการลงทุนเท่าไหร่ ผลผลิตจะต้องขายได้อย่างน้อย 90% นอกจากนี้ชาวไต้หวันยังนิยมใช้เครื่องจักรเพื่อประหยัดเวลาและแรงงาน ขณะที่เมืองไทยมีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า แต่เกษตรกรไทยกลับถามว่าปลูกเท่าไหร่ ขายได้เท่าไหร่ แถมสินค้าส่วนใหญ่ที่ผลิตได้กลับไม่ได้คุณภาพ คนไทยจะทำการเกษตรแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ต้องทำในรูปแบบธุรกิจต้องรู้จักคำนวณต้นทุน ผลกำไร เน้นลดต้นทุน ไม่ใช่มุ่งผลิตไว้กินแบบในอดีต
นายเปรม ณ สงขลา บรรณาธิการวารสารเคหการเกษตร กล่าวว่า การลงทุนภาคเกษตรจะต้องคำนึงตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง ตลาดรับซื้อผลผลิต จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลเข้ามาช่วย เกษตรกรไทยหากเจอโปรโมชั่นอะไรดีๆ มักซื้อไว้ก่อน จะได้ใช้หรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ไม่คิดว่าจะมีหนี้สินสักเท่าไหร่ การเกษตรประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤตตั้งแต่การผลิต การศึกษาในเวลาเดียวกัน โลกบีบให้การเกษตรเป็นธุรกิจซึ่งไทยยังขาดการวางแผนพื้นฐานตรงจุดนี้
โดย.....รัตนา สุขสกุล