สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เจ้าจิ๋ว'ยูเรก้า ดีไซน์' สุดยอดหุ้น'ไอพีโอ'ปี 56
04/01/2014
ข่าวเศรษฐกิจ

 ปี 2556 ถือว่ายังเป็นปีทองของหุ้นไอพีโอ หรือหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ทั้งในแง่ของจำนวนบริษัทที่ระดมทุนและราคาเปิดตลาดวันแรก  โดยมีจำนวนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 24 ธันวาคม 2556 จำนวน 28 บริษัท  แบ่งเป็น SET จำนวน 13 บริษัท และตลาดเอ็ม เอ ไอ จำนวน 15 บริษัท มีมูลค่าการระดมทุนรวม  3.9 หมื่นล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโอ  1.94 แสนล้านบาท

  สำหรับปี 2555 มีบริษัทจดทะเบียนใหม่  18 บริษัท แบ่งเป็น SET จำนวน 8 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จำนวน 10 บริษัท มีมูลค่าการระดมทุนรวม  1.96 หมื่นล้านบาท และมีมาร์เก็ตแคป  ณ ราคาไอพีโอ  6.82  หมื่นล้านบาท
    ด้านราคาหุ้นไอพีโอที่เข้าซื้อขายวันแรก  ส่วนใหญ่ปิดเหนือราคาไอพีโอ  จากการรวบรวมข้อมูลของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า 10 อันดับหุ้นไอพีโอที่ราคาเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดยังคงเป็นหุ้นขนาดเล็ก โดยอันดับ 1  คือ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน)(บมจ.) เปิดตลาดวันแรกที่ 6.75 บาท  ราคาไอพีโออยู่ที่ 2.25 บาท เพิ่มจากไอพีโอ 200%
    บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ ประกอบธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องจักรสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการประกอบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์  ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 50 ล้านหุ้น เสนอขายที่ราคาหุ้นละ 2.25 บาท  (พาร์หุ้นละ 0.50 บาท ) ที่ปรึกษาทางการเงินระบุว่าราคามีส่วนลดราว 25% เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) วันที่ 1 มีนาคม 2556
    อันดับ 2 คือ บมจ.อัคคีปราการ  เปิดตลาดวันแรกที่ 5.85 บาท  กำหนดราคาไอพีโอ  2.00 บาท เพิ่มขึ้น 192.50 %  บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจบริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ เตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย
    อันดับ 3 บมจ. ฟิลเตอร์ วิชั่น เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ  วันแรก เปิดตลาดที่ 3.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.30 บาท หรือ 191.67% จากราคาไอพีโอที่ 1.20 บาทต่อหุ้น บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ เช่น ระบบกรองน้ำ ถังกรองไฟเบอร์กลาส หัวกรองน้ำอัตโนมัติ ไส้กรองน้ำ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเล็ต และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบกรองน้ำให้บริสุทธิ์ (ดูตารางประกอบ 10 อันดับหุ้นไอพีโอที่ราคาเปิดสูงสุดปี 2556 )
    สำหรับหุ้นไอพีโอที่เข้าตลาดวันแรกราคาปิดต่ำจองมีเพียง 2 บริษัท ได้แก่ บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น ซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 ราคาปรับลง 29.33% จากราคาไอพีโอที่ 3 บาท และบมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นหุ้นไอพีโอที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯตามเกณฑ์มาร์เก็ตแคป ราคาปรับตัวลง 22.86% จากราคาไอพีโอที่ 3.50 บาท
    ปิดท้ายที่หุ้นไอพีโอตัวสุดท้ายของปี 2556  คือ บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรช เปิดซื้อขายวันแรกวันที่ 24 ธันวาคม ท่ามกลางหมอกควันจากปัจจัยลบการเมือง แต่ถือว่าหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ยังทำผลงานได้แจ๋ว โดยเปิดตลาดที่ 1.50 บาท สูงกว่าราคาไอพีโอที่ 0.90 บาท  เพิ่มขึ้น 66.67 %
    นอกจากนี้หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้เพียงวันเดียว  ถัดมาวันที่ 25 ธันวาคม หุ้นป้ายแดงอย่างโอเชี่ยน คอมเมิรช ก็อัดข่าวดีเพื่อเสริมปัจจัยพื้นฐานและเติมเสน่ห์ให้ราคาหุ้น 
    โดย "อุชัย วิไลเลิศโภคา" กรรมการผู้จัดการ บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรช เผยว่าบริษัทได้รับคำสั่งซื้อสำหรับผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำจากประเทศจีนมูลค่า 50 ล้านบาท โดยเป็นยอดสั่งซื้อสูงสุดเท่าที่เคยมีมา คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับยอดขายของบริษัท 18% ของปี 2555  ซึ่งมีมูลค่า 270 ล้านบาท จากเดิมค่าเฉลี่ยคำสั่งซื้อแต่ละล็อตมีมูลค่าประมาณกว่า 10 ล้านบาทเท่านั้น จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบริษัทว่าในอนาคตจะมีคำสั่งซื้อใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้อีก
     เขายังกล่าวถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2557 ของบมจ.โอเชี่ยนคอมเมิรช ว่ามีแผนขยายฐานลูกค้ามากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ เนื่องจากยังมีกำลังซื้อสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายและภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2557 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2558 ที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ทำให้บริษัทเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว และคาดว่าจะเปิดตลาดใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น
    ทั้งหมด คือ ความเคลื่อนไหวหุ้นไอพีโอ ปี 2556 ปีทองของบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ที่พบว่าหุ้นตัวเล็ก หรือหุ้นจิ๋ว ยังสร้างผลงานได้ดีในด้านราคาเปิดตลาด โดย 10 อันดับแรกที่ราคาเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด อยู่ระหว่าง  96 -200% 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,909 
วันที่ 29  ธันวาคม  พ.ศ. 2556 - 1 มกราคม  พ.ศ. 2557

 

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.