
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนพฤศจิกายน 2556 เศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายน 2556 ในภาพรวมหดตัวจากเดือนก่อนตามการใช้จ่ายภาคเอกชนที่หดตัว ทั้งการบริโภคและการลงทุน อย่างไรก็ดี การผลิตเพื่อการส่งออกขยายตัวจากเดือนก่อนตามการส่งออกสินค้าที่ปรับดีขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายด้านการท่องเที่ยวของจีนและเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังราคาอาหารสำเร็จรูป ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากการเกินดุลการค้าและดุลบริการ รายได้และเงินโอน ดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติเป็นสำคัญ ทำให้ในภาพรวมดุลการชำระเงินขาดดุล
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนหดตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายจากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับความเชื่อมั่นปรับลดลง โดยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 2.4 ตามการใช้จ่ายในสินค้าคงทนโดยเฉพาะยานยนต์ที่หดตัวจากฐานที่สูงในปีก่อนและความต้องการซื้อยานยนต์ใหม่ที่น้อยลง ประกอบกับการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหดตัวโดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทน ขณะที่การใช้จ่ายสินค้าไม่คงทนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง อาทิ การนำเข้าอาหารและเครื่องดื่ม และปริมาณการใช้เชื้อเพลิง การลงทุนภาคเอกชนหดตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อน แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 7.8 ตามการซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์และการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนเลื่อนการลงทุนออกไปเพื่อรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ขณะที่การลงทุนก่อสร้างขยายตัวชะลอลง เศรษฐกิจต่างประเทศที่ปรับดีขึ้นส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอย่างช้าๆ โดยเฉพาะต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ สินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และปิโตรเคมี อย่างไรก็ดี เนื่องจากการส่งออกในบางสินค้ายังเผชิญกับข้อจำกัดด้านการผลิตโดยเฉพาะสินค้าประมงที่หดตัวจากปัญหาโรคระบาดในกุ้งและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบที่ขยายตัวในอัตราต่ำจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีของไทยที่ยังไม่สามารถตอบสนองต่อรสนิยมของตลาดได้มากนัก ซึ่งเมื่อรวมกับการหดตัวของการส่งออกเหล็กและโลหะจากผลของฐานที่สูงในปีก่อน การส่งออกจึงหดตัวร้อยละ 4 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่าการส่งออกรวม 18,569 ล้านดอลลาร์ สรอ.
การส่งออกสินค้าที่ปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อนโดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออก แต่หากเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัวร้อยละ 10.6 ส่วนใหญ่เป็นผลจาก 1) การผลิตยานยนต์ที่หดตัวเพราะมีการเร่งผลิตไปมากในปีก่อน ประกอบกับคำสั่งซื้อต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงพอต่อการชดเชยคำสั่งซื้อในประเทศที่น้อยลง 2) การผลิตกุ้งแช่แข็งลดลงจากปัญหาโรคระบาด และ 3) การผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์หดตัวจากการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของผู้บริโภค ประกอบกับเป็นผลของฐานสูงในปีก่อนที่ผู้ประกอบการเร่งผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น
การนำเข้ามีมูลค่า 17,055 ล้านดอลลาร์ สรอ. หดตัวร้อยละ 9.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการลดลงของการนำเข้าสินค้าเกือบทุกหมวด ยกเว้นการนำเข้าน้ำมัน สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอลง
รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 5.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามผลผลิตที่ขยายตัวเป็นสำคัญโดยเฉพาะข้าวที่ปริมาณน้ำและภูมิอากาศเอื้ออำนวย และยางพาราที่เพิ่มขึ้นตามการขยายพื้นที่เพาะปลูกในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ผลผลิตกุ้งยังคงประสบปัญหาโรคระบาด สำหรับราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามราคากุ้งและปศุสัตว์ที่ผลผลิตมีน้อยกว่าความต้องการ แต่ราคาข้าวยังคงลดลงสอดคล้องกับราคาข้าวในตลาดโลกเนื่องจากผลผลิตของประเทศผู้ผลิตสำคัญเพิ่มขึ้น ส่วนราคายางพาราลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลักยังไม่มากพอที่จะทำให้ราคาปรับขึ้นได้
สำหรับภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือนนี้อยู่ที่ 2.4 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 11.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวดีต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาค แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายด้านการท่องเที่ยวของจีนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 และเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ ภาครัฐใช้จ่ายลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งจาก 1) ผลของฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายเงินโอนให้กองทุนนอกงบประมาณและการเร่งรัดเบิกจ่ายลงทุน และ 2) การเบิกจ่ายลงทุนบางส่วนที่เลื่อนออกไปเนื่องจากผลของเหตุการณ์ทางการเมือง สำหรับรายได้นำส่งลดลงตามภาษีสรรพสามิตภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีการค้า สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง เม็ดเงินรายจ่ายที่มากกว่ารายได้ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 118 พันล้านบาท
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 1.92 ตามการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสด พลังงานและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 0.85 ตามการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังราคาอาหารสำเร็จรูป ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากการเกินดุลการค้าและรายรับจากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น รวมทั้งการส่งกลับกำไรและเงินปันผลไปต่างประเทศที่น้อยลง ขณะที่ดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติเป็นสำคัญ ทำให้ในภาพรวมดุลการชำระเงินขาดดุล