สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เปิดกิจการใหม่พุ่ง 2.6 พันแห่ง
15/08/2013
ข่าวเศรษฐกิจ

นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการเก็บสถิติจำนวนโรงงานที่ประกอบกิจการใหม่และขยายกิจการในรอบ 7 เดือน(มกราคม-กรกฎาคม 2556) เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตค่อนข้างดีอยู่ เนื่องจากมีจำนวนผู้ประกอบการเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การเลิกกิจการมีจำนวนลดน้อยลง โดยเห็นได้จากมีโรงงานที่เปิดกิจการใหม่รวม 2,603 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.89 % จากจำนวน 2,246 โรงงาน คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 2.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 175.9 % จากมูลค่า 7.33 หมื่นล้านบาท มีการจ้างงาน 5.75 หมื่นคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 18.09 % จากจำนวน 4.87 หมื่นคน โดยโรงงานที่เปิดกิจการใหม่ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตภาคกลางเป็นหลัก รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ เป็นต้น
    "นอกจากนี้ ยังมีโรงงานที่ขยายกิจการในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2556 จำนวน  355 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 47.3 % จากจำนวน 241 โรงงาน คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 8.56 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 258.42 % จากมูลค่าเงินลงทุน 2.39 หมื่นล้านบาท มีการจ้างงาน 3.90 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 63.6 % จากจำนวน 2.38 หมื่นคน ซึ่งการขยายกิจการส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคกลาง รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ"
    ขณะเดียวกันมีโรงงานที่เลิกกิจการช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2556 รวมจำนวน 750 แห่ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.35 % จากจำนวน 886 โรงงาน คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนที่เลิกกิจการ 1.81 หมื่นล้านบาท หรือลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มูลค่าเงินลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างงาน 2.69 หมื่นคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.54 % จากที่เคยเลิกจ้างจำนวน 3 หมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคกลาง รองลงมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานคร
    อย่างไรก็ตาม การเลิกประกอบการกิจการนี้ จะมาจากผลกระทบจากค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน หรือไม่นั้น คงจะไม่ทั้งหมด เพราะยังมีหลายตัวแปรไม่ว่าจะเป็นการหันไปทำธุรกิจอื่น การขาดแคลนแรงงาน หรือต้องการอยากจะเลิกธุรกิจเอง เป็นต้น
    "หากเปรียบเทียบโรงงานที่ประกอบกิจการใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2556 มีจำนวน 439 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 383 โรงงานหรือเพิ่มขึ้น 14.62 % โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 2.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 101.35 % โดยส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานประเภทผลิตภัณฑ์อโลหะและโลหะ ผลิตภัณฑ์จากพืช เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี รองลงมาเป็นโรงงานเครื่องเรือนหรือเครื่องตกแต่งในอาคารจากไม้ แก้ว ยางหรือโลหะอื่นๆ ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ เป็นต้น" นายณัฐพล กล่าวและว่า
    ขณะที่มีจำนวนโรงงานที่ขยายกิจการรวม 49 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 35 โรงงาน หรือเพิ่มขึ้น 40 % เงินลงทุน 6.344 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1.36 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 363.51%  ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตภัณฑ์อโลหะ ผลิตภัณฑ์จากพืช และโรงงานยางและผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนโรงงานที่เลิกกิจการรวม 64 โรงงาน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 136 โรงงานหรือลดลง 52.94 % เงินลงทุน 1.55 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.55 พันล้านบาท หรือลดลง 39.2 % ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ รองลงมาเป็นโรงงานผลิตภัณฑ์อโลหะ แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เป็นต้น
    สำหรับยอดการตั้งโรงงานใหม่และขยายกิจการเพิ่มขึ้นดังกล่าว แสดงให้เห็นได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจในปีนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจที่จะลงทุนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนในช่วงระยะเวลาที่เหลือจะมีการขอตั้งโรงงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่นั้น ผู้ประกอบการคงต้องรอประเมินภาวะเศรษฐกิจของประเทศอีกทั้งว่าจะเป็นอย่างไร แต่หากประเมินในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าการเปิดหรือขยายกิจการจะยังมีเพิ่มขึ้นทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.