ศก.จีนชะลอตัวต่อเนื่องไตรมาส 2 คาดปีนี้โตแค่ 7.5% รัฐบาลหันเข้มงวดทางการเงิน เน้นพึ่งตลาดภายใน
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจีน (จีดีพี) ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ยังคงอยู่ในภาวะการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยขยายตัวได้ที่ 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ไตรมาส 1 ของปีนี้ เศรษฐกิจแดนมังกรขยายตัวที่ 7.7% ส่วนดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ประจำเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาก็ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้เช่นกัน โดยขยายตัวที่ 8.9% เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เผยต่ออีกว่า สาเหตุของการชะลอตัวของจีนเกิดจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐ กับยุโรป จึงทำให้ภาวะการส่งออก และการลงทุนในประเทศจีน ลดลงอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ยังเป็นช่วงที่รัฐบาลจีน ได้เริ่มหันมาเข้มงวดกับการดำเนินนโยบายการเงินมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการปล่อยสินเชื่อนอกระบบที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และหันมาปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นการบริโภคจากภายในประเทศ แทนที่การพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักเหมือนในอดีต
อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวดังกล่าวของจีดีพีจีนในไตรมาส 2 ปีนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์มากนัก เนื่องจากเป็นไปตามตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว
"ตัวเลขที่ออกมาไม่ถือว่าน่าตกใจ และนี่ถือเป็นสัญญาณการชะลอตัวของจีน" โจว ห่าว นักเศรษฐศาสตร์ จากธนาคารเอเอ็นซี แบงก์ สาขาเซี่ยงไฮ้ กล่าวให้สัมภาษณ์กับ รอยเตอร์ส
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า รัฐบาลจีนจะออกมาคาดการณ์ไว้แล้วว่า ในปี 2013 เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ระดับ 7.5% แต่ตัวเลขระดับดังกล่าวนี้ถือเป็นตัวเลขการขยายตัวของจีดีพีแดนมังกรที่โตได้ต่ำที่สุดในรอบ 23 ปี