คุณเกวน เฮนริคส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการแคธเธอร์พิลลาร์ (Caterpillar) ได้ขึ้นให้การต่อคณะกรรมการวุฒิสภาพาณิชย์ และขอเรียกร้องให้ผู้บัญญัติกฎหมายสนับสนุนผู้อพยพที่มีทักษะการผลิตและมีทักษะสูง ในรูปแบบใดก็ตามของการปฏิรูปการตรวจคนเข้าเมืองให้สามารถผ่านเป็นกฎหมายได้
คุณเฮนริคส์แจ้งแก่คณะกรรมการว่า การปฏิรูปดังกล่าวมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้สหรัฐอเมริกาความสามารถแข่งขันในเศรษฐกิจโลกได้ โดย การรับสมัครผู้ที่มีความสามารถที่ดีกว่าจากทั่วโลก ในสาขา วิทยาศาสตร์ (science), เทคโนโลยี (technology), วิศวกรรม (engineering) และ คณิตศาสตร์ (mathematics) หรือ STEM
คุณเฮนริคส์กล่าวว่าการรับสมัครนั้นเป็นกุญแจสำคัญเพราะในปัจจุบันสหรัฐอเมริกาผลิตผู้สำเร็จการศึกษาในสาขาSTEM ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน
“ความเติบโตของงานในสาขา STEM คาดว่าจะเติบโตสูงกว่างานในสาขาอื่นๆในอีก 10 ปีข้างหน้า แคธเธอร์พิลลาร์กำลังปฏิบัติการอย่างแข็งขันที่จะเพิ่มอุปทานของ ผู้ที่มีทักษะและความสามารถในสาขา STEM ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานที่เรามีและกำลังต้องการในอนาคต” เฮนริคส์กล่าวเพิ่มเติม
คุณเฮนริคส์ได้ร้องขอให้ผู้บัญญัติกฎหมายขยายจำนวน H-1B วีซ่าในแต่ละปีเพิ่มขึ้น เนื่องจากแคธเธอร์พิลลาร์ และผู้ผลิตรายอื่นๆ จะว่าจ้างแรงงานต่างชาติด้านวิศวกรรม และ วิทยาศาสตร์ ผ่านทางวีซ่าดังกล่าว แต่ทว่าจำนวนวีซ่ากำหนดไว้เพียง 65,000 วีซ่าต่อปีและจำนวนวีซ่าหมดอย่างรวดเร็วมาก โดยในปีนี้แค่เพียงวันแรกที่เปิดให้ยื่นคำร้อง วีซ่าก็เต็มเสียแล้ว และบริษัทต้องรอจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2014 ถึงจะสามารถยื่นคำร้องใหม่ได้
เพื่อเป็นการบรรเทาความตึงเครียดสำหรับจำนวน H-1B วีซ่าที่กำหนดไว้รายปี แคธเธอร์พิลลาร์ประสงค์ที่จะเห็นจำนวนของการมอบกรีนการ์ดให้แก่นักเรียนต่างชาติที่จบการศึกษาในสาขา STEM ในมหาวิทยาลัยอเมริกันไม่นับรวมไปในจำนวน H-1B วีซ่า และแคธเธอร์พิลลาร์ประสงค์ที่จะให้การจำกัดจำนวนกรีนการ์ดสำหรับแต่ละประเทศ (the per-country limit) สิ้นสุดลง
“ที่แคธเธอร์พิลลาร์ บุคลากรของเราเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุด เราต้องการหนทางแก้ไขที่จะกล่าวถึงปัญหาเหล่านี้และความช่วยเหลือแก่เราในการสร้างท่อน้ำเลี้ยงแรงงานมีทักษะสูงอย่างยั่งยืนและเพียงพอต่อความต้องการของเรา พร้อมทั้งรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับชนรุ่นอนาคตผ่านทางนวัตกรรมและความร่วมแรงร่วมใจ” เฮนริคส์กล่าว