นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) ย้ำว่า ทางส.อ.ท.เรียกร้องให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างเร่งด่วน เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไม่เหมือนต่างประเทศ ซึ่งภาวะปัจจุบันต้นทุนดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
ดังนั้น กนง.ควรมองดอกเบี้ยนโยบายให้ตอบโจทย์เศรษฐกิจไทยกับภาวะเศรษฐกิจให้มากที่สุด จึงขอความอนุเคราะห์ ขอความเห็นใจจากกนง. ซึ่งเรื่องนี้เป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพ และเป็นกำลังใจให้กับคนที่มีหนี้สิน
*เสนอตรึงดีเซล-LPG ต่อ
นอกจากนี้ เสนอให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร และตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก. ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เพราะผลกระทบหากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทนั้น นายอิศเรศ กล่าวว่า จะทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลที่เป็นปัจจัยพื้นฐานการขนส่ง และภาคเกษตร จะกระทบต่อค่าครองชีพ และเงินเฟ้อ และมองว่า ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะมีการลอยตัวน้ำมันดีเซล รัฐบาลควรดูภาพรวมถ้าเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ก็ควรต่อมาตรการนี้ออกไปอีกสักระยะหนึ่ง
ส่วนกรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน พ.ค. - ส.ค. 2567 ใน 3 แนวทางนั้น นายอิศเรศ มองว่า ทางเลือกของกกพ. ผิดทุกข้อ ซึ่งทางส.อ.ท.เสนอไป คือ ราคาไม่ควรเกิน 4 บาท เพราะปัจจุบันราคาพลังงานโลกลดลง แต่ทำไมถึงไม่ได้ค่าไฟที่ถูกลง และจากแนวทางที่ออกมาไม่ได้เปิดทางเลือกอื่นๆไว้ให้ เช่น การผลักดันโซลาร์เสรี หรือ โซลาร์ภาคประชาชน เป็นต้น
*เบิกจ่ายงบล่าช้า กระทบสภาพคล่อง ITD
สำหรับกรณีที่ปัญหาการขาดสภาพคล่องของ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ส่งผลกระทบภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้น นายอิศเรศ ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า และปัญหาของอิตาเลียนไทย สะท้อนภาพฟองสบู่ เหมือนกับกรณีหนี้สินครัวเรือน หนี้รถยนต์ หรือหนี้บ้าน และมองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ากลัว และกระทบต่อแรงงานในภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย การเบิกจ่ายช้าลง เงินทุนหมุนเวียนน้อยลงถือเป็นเรื่องใหญ่
*บรรยากาศการเมืองบั่นทอนเชื่อมั่น
สำหรับสถานการณ์การเมือง หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจหรือไม่นั้น นายอิศเรศ มองว่า ถ้าการเมืองไม่มั่นคงก็สะท้อนบรรยากาศ และอารมณ์ของผู้บริโภค และส่งผลต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจและทำให้ภาคธุรกิจอาจเกิดความไม่มั่นใจได้