นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)แถลงการส่งออก ที่ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
นางสาวกัณญภัคระบุว่า ภาพรวมการส่งออกช่วงเดือนมกราคม- กรกฎาคมปี 2562 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 144,176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 4,536,245 ล้านบาทหดตัว -2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
อย่างไรก็ดี การส่งออกเดือนกรกฎาคม 2562 มีมูลค่า 21,205.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.28% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 654,937 ล้านบาท หดตัว -0.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY)
นางสาวกัณญภัคกล่าวว่า สรท.คงคาดการณ์การส่งออกปี 2562 หดตัว-1%บนสมมุติฐานค่าเงินบาท 33.0 (?0.5) บาทต่อเหรียญสหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2562 = 30.646 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.62-30.90 บาทต่อเหรียญสหรัฐ)
โดยปัจจัยเสี่ยงการส่งออกว่า ประกอบด้วยภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในปัจจุบัน อันได้แก่ สงครามการค้าที่มีรุนแรงมากขึ้นและมีแนวโน้มยืดเยื้อ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งของสินค้าส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มของสินค้าเกษตรและปัจจัยอื่นๆ
สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญคือขอให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบุกตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดเดียวที่ไม่ติดลบและมีโอกาสมาก เช่น ยางพาราและไม้ยางพารา อุตสาหกรรมอาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า สเปรย์และเคมีซ่อมแซม ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการค่อนข้างสูงและไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงใช้ประโยชน์จาก FTA Thai-India และเร่งเจรจา FTA Thai-Sri Lanka
นอกจากนี้ ต้องพิจารณาตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูงและตลาดรอง เช่น กลุ่มแผงวงจรไฟฟ้า ที่มีการเติบโตสูงในตลาด กรีซ ออสเตรีย ยูเครน ซึ่งเป็นโอกาสของสินค้าไทยทดแทนตลาดที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะเดียวกันให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ใช้รูปแบบการหารือระหว่างรัฐและเอกชนรายสินค้า (Champion of Product : COP) ร่วมกับทูตพาณิชย์แต่ละประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นกลไกและช่องทางที่ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการทำได้โดยเร็ว และใช้ช่องการค้าผ่านออนไลน์ e-commerce platform
ส่วนกรณีที่ภาครัฐจะผลักดันส่งออกของไทยปีนี้จะต้องเป็นบวกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 นั้น นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าด้วยปัจจัยเสี่ยงข้างต้นจึงมองว่าโอกาสส่งออกของไทยปีนี้น่าจะติดลบมีโอกาสสูงมาก
ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ย้ำต่อภาคเอกชนว่าปีนี้จะพยายามเร่งผลักดันทุกแนวทาง เพื่อให้ภาคการส่งออกของไทยปีนี้จะต้องเป็นบวกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3