พาณิชย์ ประเมินสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ทำส่งออกไทยวูบ หลังห่วงโซ่การผลิตให้จีนทรุด ชี้แนวโน้มสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าไทยแทนจีนเพิ่ม เร่งทำแผนส่งเสริมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเร่งปิดเจรจาอาร์เซพ ในปีนี้...
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน ทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัว โดยในปี 62 คาดจะทำให้การค้าและการส่งออกของแต่ละประเทศลดลงจากปี 61 โดยมีประเทศที่การส่งออกหดตัวถึง 60 ประเทศ จาก 94 ประเทศ แต่ในเอเชียมีบางประเทศยังส่งออกได้ดี เช่น อินเดีย บังกลาเทศ เป็นต้น สำหรับไทย แม้ปี 61 มูลค่าส่งออกลดลง แต่ยังทัดทานผลกระทบสงครามการค้าได้ระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ส่วนไตรมาสแรกปี 62 ส่งออกหดตัว 1.6% โดยส่งออกไปจีนหดตัว 9.2% แต่ไปสหรัฐฯ ขยายตัว 32.2%
"แม้รายได้ส่งออกในกลุ่มสินค้าที่ไทยถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการทางการค้าจะลดลง ทั้งโซลาร์เซลล์ และเครื่องซักผ้า แต่ไม่มากนัก ขณะที่เหล็กและอลูมิเนียมยังขยายตัว แต่การส่งออกสินค้าไทยในห่วงโซ่การผลิตของจีนลดลงแล้ว เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ, ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และแผงวงจร, เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ, เครื่องจักร เครื่องมือและส่วนประกอบ เป็นต้น แต่สหรัฐฯ มีแนวโน้มนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นทดแทนสินค้าจีนที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษี เช่น ยานยนต์และส่วนประกอบ, เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ, เครื่องจักร เครื่องมือและส่วนประกอบ, เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ดังนั้นการส่งออกไทยยังมีโอกาส ท่ามกลางความท้าทายจากสงครามการค้า"
อย่างไรก็ตามยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าตลอดปี โดยจัดกิจกรรมกระตุ้นการส่งออกทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การเจาะตลาดรายเมือง/มณฑล การเร่งเจรจาเปิดตลาดโดยเฉพาะผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในระดับภูมิภาค (อาร์เซพ) ให้เสร็จในปีนี้ รวมถึงเจรจาแก้ปัญหาและอุปสรรคทางการค้า การสร้างหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศคู่ค้าศักยภาพ ส่งเสริมการค้าชายแดนเป็นต้น เชื่อว่ามาตรการต่างๆ เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการส่งออก และเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป