ธพว.พอใจยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาสแรกเข้าเป้าหมื่นล้าน ทุ่ม 600 ล้านบาท ยกระดับสู่ดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อเอสเอ็มอีรายย่อย พร้อมเล็งออกพันธบัตร 2 หมื่นล้านบาทระดมทุนปล่อยกู้...
นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 ธพว.ปล่อยสินเชื่อแล้วรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และมั่นใจว่าภายในปีนี้ สามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 60,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เนื่องจากธนาคารมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ถูกใจผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ผ่อนนาน 7 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยบุคคลธรรมดา 3 ปีแรก เพียง 0.417% ต่อเดือนปี วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท โครงการหน่วยรถม้าเติมทุน ส่งเสริม SMEsไทย ฉับไวไปถึงถิ่น ซึ่งเป็นบริการเคลื่อนที่พบผู้ประกอบการถึงสถานประกอบการ สามารถพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ในเวลา 7 วัน เป็นต้น
นายพงชาญ กล่าวว่า ธพว.จะมุ่งยกระดับการทำงานสู่การเป็นดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) เต็มรูปแบบ โดยจัดงบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท สร้างระบบระบบไอทีหลักของธนาคาร (core banking) โดยจะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนมาพัฒนาระบบ ใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยงการทำธุรกรรมเบ็ดเสร็จครบวงจร ทั้งนี้เริ่มพัฒนาระบบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์แบบภายใน 2 ปี
“การยกระดับธนาคารสู่ดิจิทัลแบงก์กิ้งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยนอกระบบที่มีอยู่จำนวนกว่า 3 ล้านบาท สามารถเข้าถึงบริการของธพว.ได้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยให้เอสเอ็มอีเพิ่มขีดความสามารถ ลดความเหลื่อมล้ำ” รักษาการ กรรมการผู้จัดการ ธพว.กล่าว
นายพงชาญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ธพว.ยังเร่งบริหารจัดการหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) โดยให้บริษัทติดตามหนี้มืออาชีพ มาทำหน้าที่ติดตามหนี้ในรายลูกค้าที่ไม่ให้ความร่วมมือกับธนาคารเพื่อขายหนี้เสียออกไป และทำให้ธนาคารสามารถระดมเงินทุนมาปล่อยสินเชื่อคุณภาพดีให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อไปได้และช่วยลดหนี้เสีย ซึ่งภายในปีนี้คาดว่าหนี้เสียจะเหลือไม่เกิน 10% ซึ่งช่วยให้สถานะทางการเงินของธนาคารมีความเข้มแข็ง
“ธนาคารเตรียมแผนออกพันธบัตรต่อเนื่องในปี 2562 เพื่อระดมเงินฝากมาปล่อยสินเชื่อ โดยจะออกครั้งละ 5,000 ล้านบาท จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นวงเงิน 20,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากผลตอบแทนอยู่ในระดับสูง ประกอบกับธนาคารได้รับจัดอับดับเรตติ้งองค์กร จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระดับ AAA ถือเป็นระดับสูงสุดเท่ากับเรตติ้งของรัฐบาลไทย” รักษาการ กรรมการผู้จัดการ ธพว.กล่าว