นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมเชิญหน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชน เกษตรกร นักวิชาการ ฝ่ายนิติบัญญัติ และภาคประชาสังคม
เพื่อหารือทบทวนกรอบการเจรจาอาเซียน+1 ของไทย
ที่มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2552 ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.
นี้ เพื่อให้ไทยสามารถเข้าร่วมการเจรจายกระดับ FTA และจัดทำ FTA
ใหม่ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมา
อาเซียนกับคู่เจรจา อาทิ จีน อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้
ได้เห็นพ้องว่าจะเริ่มเจรจาเพื่อยกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของอาเซียน+1 ที่มีอยู่
ให้มีความทันสมัยและเปิดเสรีมากขึ้น และประเทศอื่นๆ นอกภูมิภาคที่มีความสนใจจะทำ FTA
กับอาเซียน โดยเมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา กรมฯ
ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐ 55 แห่ง หารือผ่านระบบการประชุมทางไกล
เพื่อเตรียมการปรับปรุงกรอบการเจรจา FTA อาเซียน+1 เดิมของไทยด้วยแล้ว
นางอรมน กล่าวว่า
สำหรับการเจรจาเพื่อจะยกระดับความตกลง FTA อาเซียน+1 คาดว่าจะมีการผนวกประเด็นใหม่ๆ ที่หลายประเทศให้ความสนใจ
ซึ่งไทยจำเป็นต้องเตรียมกรอบการเจรจาในเรื่องเหล่านี้ อาทิ
การเจรจาเพื่อปรับปรุงความตกลง FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์
(AANZFTA) จะมีประเด็นเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค
วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน
FTA สำหรับอาเซียน-จีน (ACFTA) จะมีประเด็นเศรษฐกิจสีเขียว
เศรษฐกิจดิจิทัล นโยบายแข่งขันทางการค้า การคุ้มครองผู้บริโภค และการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน
เพื่อให้ทันสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนไป
“กรมฯ
ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
จึงได้เตรียมแผนงานที่จะจัดรับฟังความเห็น เพื่อให้การปรับปรุงกรอบการเจรจา FTA
อาเซียน+1 ของไทย รอบคอบและรัดกุมมากที่สุด
เพื่อให้ทันรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนไป และเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ
หากสามารถหาข้อสรุปการร่างกรอบการเจรจาฯ ได้แล้ว กรมฯ จะเสนอระดับนโยบายกระทรวง
เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป” นางอรมนเสริม
ทั้งนี้ ปัจจุบันอาเซียนมี FTA
ทั้งหมด 7 ฉบับ ได้แก่ อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น
อาเซียน-เกาหลีใต้ อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อาเซียน-ฮ่องกง
และอาร์เซ็ป (อาเซียน+5) ซึ่งความตกลงฯ
ได้เริ่มมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2548 และอาเซียนได้ประกาศเริ่มเจรจา
FTA กับแคนาดา เมื่อปลายปี 2564
------------------------------------
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
11 กุมภาพันธ์ 2565