นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า
เกาหลีใต้เป็นตลาดคู่ค้าสำคัญของไทยที่น่าจับตามอง
เนื่องจากไทยมียอดส่งออกสินค้าไปเกาหลีใต้ขยายตัวสูงต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือน
ม.ค.-พ.ย. 2564
ไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,373 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขยายตัว 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
สินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป
ส่งออกมูลค่า 987 ล้านเหรียญสหรัฐ (+21%) อาทิ ยางพารา (+62%) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (+37%)
น้ำตาลทราย (+27%) ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลัง (+25%) และปลาหมึก
(มีชีวิต สด แช่เย็นแช่แข็ง) (+11%) ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม
ส่งออกมูลค่า 4,012 ล้านเหรียญสหรัฐ (+37%) อาทิ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ (+69%) คอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ
(+60%) เคมีภัณฑ์ (+43%) แผงวงจรไฟฟ้า
(+42%) และผลิตภัณฑ์ยาง (+37%)
นางอรมน กล่าวว่า ในปี 2565 คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ
ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้ากลุ่มวัตถุดิบที่ใช้ในภาคการผลิตของเกาหลีใต้อยู่ในช่วงขาขึ้น
จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะขยายส่งออกไปตลาดเกาหลีใต้
โดยสามารถเลือกใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) 2
ฉบับ ได้แก่ อาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) ซึ่งเกาหลีใต้ได้ยกเลิกเก็บภาษีนําเข้าสินค้าให้ไทยกว่า
90.9% ของรายการสินค้าทั้งหมด อาทิ
รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ผลิตภัณฑ์พลาสติก ยางพารา เนื้อปลาและกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง และน้ำตาลดิบ
และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้กับเกาหลีใต้ในวันที่
1 ก.พ. 2565
โดยเกาหลีใต้จะยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าให้ไทย สัดส่วน 90.7% ของรายการสินค้าทั้งหมด
สำหรับความตกลง RCEP
ไทยประสบความสำเร็จในการผลักดันให้เกาหลีใต้เปิดตลาดเพิ่มเติมจาก AKFTA
หลายรายการ อาทิ ทุเรียน มังคุด ฝรั่ง มะละกอ และอินทผาลัม
เก็บภาษีที่อัตรา 24-36% และไม้ยางพารา อัตราภาษี 5% โดยจะทยอยลดจนเหลือศูนย์ ในปี 2574
สำหรับปลาซาร์ดีนกระป๋อง ทูน่าแปรรูป และอาหารทะเลแปรรูป เก็บภาษีที่อัตรา 20% อาหารสัตว์เลี้ยง อัตราภาษี 40.4%
เด๊กตรินและโมดิไฟด์สตาร์ช อัตราภาษี 100.6-192.8%
และแป้งมันสำปะหลัง อัตราภาษี 5% ซึ่งจะทยอยลดจนเหลือศูนย์
ในปี 2579 ส่วนผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เก็บภาษีที่อัตรา 20% และภาษีนอกโควตา 40% จะทยอยลดภาษีจนเหลือศูนย์ในปี 2584
“ผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มโอกาสสะสมถิ่นกำเนิดในเครือข่ายการผลิตสินค้าจากสมาชิก
RCEP ทั้ง 15 ประเทศ
ซี่งใช้เกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้าเดียวกัน ทำให้มีความสอดคล้องและยืดหยุ่นมากขึ้น
และยังสามารถสะสมวัตถุดิบในการผลิตได้จากหลายแหล่งมากขึ้น
โดยผู้ประกอบการไทยควรเตรียมความพร้อมใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP เพื่อขยายส่งออกสินค้าไปตลาดเกาหลีใต้เพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งตรวจสอบสิทธิประโยชน์ในกรอบ FTA ต่าง ๆ
และเลือกใช้ให้ความเหมาะสมกับลักษณะธุรกิจ” นางอรมนเสริม
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย
10 มกราคม 2565