นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา องค์การการค้าโลก (WTO) ได้จัดงานฉลองเนื่องในโอกาสการจัดประชุมคณะกรรมการเกษตร (COA) ครั้งที่ 100 และความสำเร็จของการประชุมในช่วง 27 ปี ที่ผ่านมา โดยได้เชิญผู้อำนวยการ WTO อดีตประธาน COA และผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรจากองค์การระหว่างประเทศ อาทิ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การอาหารโลก เข้าร่วมการประชุม ในส่วนของไทย มีสมาชิกวุฒิสภาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) ในฐานะอดีตเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และอดีตประธาน COA คนที่สองของ WTO เมื่อปี 2539 เข้าร่วมกล่าวเปิดงาน
นางอรมน กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือแลกเปลี่ยนความเห็นต่อการรับมือความท้าทายที่เกิดขึ้นกับการค้าสินค้าเกษตรของโลก และแนวทางที่ COA จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดระบบการค้าสินค้าเกษตรที่เสรี เป็นธรรม บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นประโยชน์กับเกษตรกรและผู้บริโภคสินค้าเกษตรทั่วโลกอย่างแท้จริง สำหรับการเจรจาสินค้าเกษตรของ WTO ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การลดการอุดหนุนภายในสินค้าเกษตรที่บิดเบือนการค้า การยกเลิกการอุดหนุนส่งออกสินค้าเกษตร และการเข้าสู่ตลาด
ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ เพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้ ไทยได้ขอให้สมาชิก WTO ร่วมกันรับมือกับรูปแบบการค้าสินค้าเกษตรที่เปลี่ยนไป และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจคุกคามความมั่นคงด้านอาหาร โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด พร้อมทั้งเสนอให้สมาชิก WTO นำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาช่วยจัดการห่วงโซ่การผลิตสินค้าเกษตร เพื่อรับมือกับความท้าทายทางการค้าดังกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2558 ที่ประชุม WTO ครั้งที่ 10 เห็นชอบให้สมาชิก WTO ยกเลิกการอุดหนุนส่งออกทุกรูปแบบ และที่ประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 12 ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ สมาชิกตั้งเป้าให้ได้ข้อสรุปเรื่องการลดการอุดหนุนภายในที่บิดเบือนตลาด และการเพิ่มความโปร่งใสและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในการใช้มาตรการต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีการอุดหนุนการส่งออก เพื่อผลักดันให้การค้าสินค้าเกษตรมีความเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกสินค้าเกษตรโลกรวมถึงไทยด้วย
สำหรับการประชุมคณะกรรมการเกษตร (COA) องค์การการค้าโลก (WTO) ได้จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2538 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญ เพื่อติดตามนโยบายการค้าสินค้าเกษตรของประเทศสมาชิก ให้เป็นไปตามความตกลงเกษตรของ WTO ตลอดจนเป็นเวทีหารือข้อกังวลเกี่ยวกับสินค้าเกษตร