นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันที่ 7 .ต.ค.
เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี (ต.ค.-ธ.ค. 63) เพิ่มเติมในรูปแบบ Co-pay สำหรับผู้เสียภาษีที่มีกำลังซื้อ ในเรื่องนี้ก็คงจะพิจารณว่าจะดึงกำลังซื้อจากคนที่มีศักยภาพได้อย่างไร โดยมีการปรับรูปแบบ จากโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” และ โครงการ”ช็อปช่วยชาติ” ให้เหมาะสม
พร้อมแนะนำให้ทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น”เป๋าตัง”ไว้ เนื่องจากรัฐบาลงมีแนวคิดที่จะช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยต้องตรวจสอบได้และเข้าถึงประชาชนได้ ขณะที่ร้านค้าที่ยังไม่สามารถรับการจ่ายเงินผ่านแอปฯนี้ได้ควรติดต่อธนาคารพาณิชย์ เพื่อขอใช้บริการการเข้าถึงเน็ตแบงก์ เพื่อประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการที่จะมีการช่วยเหลือต่อเนื่อง
รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่บรรดาสายการบินในประเทศเสนอขอให้รัฐบาลจัดตั้งเงินกู้ซอฟต์โลน 2.4 หมื่นล้านบาทนั้น คงต้องรอให้กระทรวงการคลังพิจารณา เพราะต้องยอมรับว่าโควิด-19 กระทบต่อการเดินทาง ซึ่งการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแบบระยะยาวเข้ามาในประเทศบนเงื่อนไขเข้มงวดตรวจป้องกันโรคนั้นก็จะช่วยทำให้เพิ่มรายได้ผู้ประกอบการได้แนวทางหนึ่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 ต.ค. 63)