จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ที่ลุกลามไปทั่วโลก สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม
โดยไม่อาจคาดการณ์ได้แน่ชัดว่าจะจบลงอย่างไร และเมื่อใด อย่างไรก็ตาม
ในหลายประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ก็จะกลับมาฟื้นฟูกิจกรรมต่าง ๆ
เพื่อเร่งขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทยที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อมในการกลับสู่ภาวะปกติ
หลายโรงงานเริ่มกลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้ง
แต่ในอีกหลายประเทศยังจำเป็นต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ภาพใหญ่ ๆ
เหล่านี้ทำให้ไม่อาจตัดสินใจในการลงทุนได้ โดยเฉพาะการลงทุนที่ใช้เม็ดเงินจำนวนมากอย่างเครื่องจักรกลซึ่งเป็นสินค้าในหมวดทุน
โควิดได้สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกลอย่างรุนแรงยิ่งกว่าสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
ในช่วงที่ผ่านมาเสียอีก
โดยสมาคมผู้ผลิตเครื่องจักรกลญี่ปุ่น (Japan Machine Tool Builders’
Association: JMTBA) และสองค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ Makino และ
DMG MORI ได้แสดงความเห็นต่อสถานการณ์และแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องจักร
ไว้ดังนี้

Japan Machine Tool Builders’ Association รายงานว่า
การระบาดของโควิด-19
ทำให้ความต้องการเครื่องจักรกลลดลงเป็นอย่างมาก โดยในปีงบประมาณ 2019
ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2020
พบว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่น ลดลงถึง 34.9%
หลังจากการระบาดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือน และเป็นยอดออเดอร์ต่ำสุดในรอบ 10
ปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานการยกเลิกและเลื่อนออเดอร์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
และคาดการณ์ว่า จะลดลงอีกในอนาคต โดยเฉพาะยอดสั่งซื้อจากสหรัฐฯ
ในทางกลับกัน ประเทศจีนมีดัชนี PMI เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่
52.0
ฟื้นตัวกลับมาเป็นครั้งแรกหลังลดลงต่อเนื่องตลอด 3
เดือน
ซึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมโรคที่ทำให้สถานการณ์ภายในประเทศจีนมีความมั่นคงมากขึ้น
Mr. Shinichi Inoue ประธานบริษัท Makino แสดงความเห็นว่า
ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจ
ซึ่งทำให้หลายองค์กรจำเป็นต้องทุ่มเทให้กับการประคับประคองบริษัทตนให้รอดต่อไปได้ก่อน
ซึ่งคาดการณ์ว่า ในปีงบประมาณ 2020 บริษัทจะสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก
และจะรุนแรงมากกว่าสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ ทางบริษัทฯ
ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการของปี 2020
ลงถึง 3 ครั้งด้วยกัน และย้ำว่า
“นี่คือการตกต่ำสุดของเศรษฐกิจนับตั้งแต่ช่วงปี 1930”
นอกจากนี้ Mr. Shinichi Inoue ได้แสดงความเห็นต่อกรณีตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ
Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะถดถอย 3.0%
ว่า “องค์กรธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลกอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่การคาดการณ์ถึงอนาคต
แต่เป็นการอาศัยเวลาที่มีในขณะนี้เพื่อพัฒนาองค์กรให้ดีขึ้น
โดยยกกรณีตัวอย่างของทางบริษัทฯ ถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของคลังสินค้า
มีการจัดเรียงสต็อกสินค้าใหม่ให้ประหยัดพื้นที่ นำ Automated Guided
Vehicle และหุ่นยนต์ SCARA มาใช้ร่วมกัน
เพื่อสร้างระบบลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ
โดยคาดว่าระบบนี้จะเริ่มทำงานได้ในเดือนสิงหาคมนี้
Mr. Masahiko Mori ประธานบริษัท DMG MORI แสดงความเห็นว่าการหยุดชะงักของเศรษฐกิจ
ทำให้ความต้องการสินค้าของผู้บริโภคลดลง
ซึ่งเป็นส่งผลต่อความต้องการในภาคอุตสาหกรรมการผลิตโดยตรง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ทางบริษัทฯ
ไม่สามารถจัดงานแสดงสินค้า เพื่อสาธิตเทคโนโลยีให้กับลูกค้าเก่า และผู้สนใจได้
รวมถึงจำเป็นต้องหยุดสายการผลิตในยุโรป เหล่านี้ล้วนนำสู่การคาดการณ์ว่า ตลาด Machine
Tools อาจหดตัวลงถึง 30%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2021-2022 ความต้องการ Machine Tools ที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ
มีโอกาสที่จะเพิ่มสูงขึ้น
ที่มา : Nikkan Kogyo Shimbun
ที่มาของข่าว: Nikkan Kogyo Shimbun