สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

อุตฯไล่บี้ 1.4 แสนโรงงาน สร้างศก.แบบหมุนเวียน ลดต้นทุนดูแลสิ่งแวดล้อม
14/03/2019
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
กรอ.ไล่บี้โรงงาน 1.44 แสนราย เข้าสู่เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ให้เกิดการใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น นำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน จากต้นทุนที่ลดลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ คาดมีผลบังคับปลายปีนี้ ยันยกเลิก รง.4 สร้างความโปร่งใสในการต่อใบอนุญาต

??™??????????????Š?????? ??????????????????????

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา”ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ในอนาคต” ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การดำเนินงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) ได้มีการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมสู่ Factory 4.0 ภายใต้แนวคิด Circular Economy หรือเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน  เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่กระบวนการผลิต การบริโภค การจัดการของเสีย ตลอดจนการนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบใหม่

โดยกรอ.จะให้ความสำคัญในการดำเนินงานครอบคลุม 4  ด้าน ได้แก่ การผลิต จะเป็นการส่งเสริมการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสู่นวัตกรรมการรออกแบบตลอดห่วงโซ่ของผลิตภัณฑ์  การบริโภค เป็นการส่งเสริมให้นำกลับมาใช้ซ้ำ และการลดการใช้หรือใช้น้อยเท่าที่จำเป็นตลอดจนมีข้อมูลของผลิตภัณฑ์ การจัดการของเสีย เป็นการปรับปรุงขั้นตอนการจัดการของเสีย และการลงทุนการจัดการของเสียระยะยาว และการใช้วัตถุดิบรอบ 2 หรือการแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่ โดยการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบรอบ 2 หรือการแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ หากโรงงานที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 1.44  โรงงาน สามารถดำเนินการเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนได้ ภายใต้การขับเคลื่อนของกรอ.ได้ จะเป็นการช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมติบโตได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดปริมาณของเสียจากโรงงาน ที่มีกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรคุ้มค่า และเป็นการเพิ่มศักยภาพความสามารถในการแข่งขันได้ด้วย เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำลง



นายสมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขพ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม ที่ผ่านมาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ไปแล้วนั้น คาดว่าในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2562 พ.ร.บ.ฉบับใหม่น่าจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งได้แก้ไขนิยามโรงงานที่อยู่ในการกำกับดูแลใหม่ จากเดิมกำหนดให้โรงงานที่มีเครื่องจักรตั้งแต่ 5 แรงม้า มีแรงงาน 7 คนขึ้นไปต้องมาขึ้นทะเบียนขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือ รง.4 กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะปรับเปลี่ยนใหม่เป็นโรงงานที่มีเครื่องจักรตั้งแต่ 50 แรงม้า และแรงงาน 50 คนขึ้นไป ถึงจะมาขอใบอนุญาตตั้งโรงงาน

โดยจะส่งผลให้โรงงานในการกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรมจาก 1.44 แสนโรงงาน ลดลงราว 50 % หรืออยู่ในความดูแลประมาณ 8 หมื่นโรงงาน และโรงงานเหล่านี้ตาม พ.ร.บ.โรงงงานแก้ไขใหม่ไม่จำเป็นต้องยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาต รง.4 ทุก 5 ปี เพราะเปลี่ยนระบบใหม่มาเป็นการรับรองตนเองแทน โดยมีบุคคลที่ 3 ตรวจรับรอง



นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) กล่าวว่า การกำกับดูแลโรงงานตามแนวทางการรับรองตนเองของโรงงาน มาตรการนี้จะส่งผลดีและชัดเจนแบบ 2 เพิ่ม 2 ลด คือ 1.เพิ่มความสะดวกผู้ประกอบการ 2.เพิ่มประสิทธิภาพการบริการของภาครัฐ และ 1.ลดระยะเวลาการทำเรื่องขอใบอนุญาตแบบเดิม 2.ลดปัญหาข้อร้องเรียนสร้างความความโปร่งใสในกระบวนการต่อใบอนุญาต  ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงคือผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยสร้างความสนใจดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกมาลงทุนเพิ่มในประเทศไทยได้มากขึ้น ขณะที่การกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ก็ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องดูและควบคุมอยู่
ที่มาของข่าว: ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.