นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าสศค.ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 ที่ 4.5% จากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.9% ถึงแม้หลายสำนักจะประเมินภาพรวมเศรษฐกิจว่าปลายปีแผ่วลง จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพราะยังต้องติดตามปัจจัยอื่นทั้งในและนอกประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และประเมินแรงขับเคลื่อนหลักที่มาจากการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและลงทุนที่เร่งตัวขึ้น รวมทั้งรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตรกรรมที่เริ่มดีขึ้น ตลอดจนการส่งออกและท่องเที่ยวที่คาดว่าจะดีขึ้น ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน คาดว่าจะเริ่มเห็นผลต่อเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2562
สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2561 ได้รับแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องสะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ขยายตัวได้ดีที่ระดับ 12.8% ต่อปี ภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัว 9.6% ต่อปี สูงสุดในรอบ 4 เดือน และการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องที่ 26.9% ต่อปี ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17
ขณะที่การส่งออกสินค้ากลับมาส่งสัญญาณชะลอตัว โดยมีมูลค่า 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาหดตัวที่ -0.95% ต่อปี แต่ตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ CLMV ยังคงขยายตัวสูง
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวน 3.18 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.5% ต่อปี จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่สูงถึง 44.6% ต่อปี สูงสุดในรอบ 41 เดือน อีกทั้งชาติอื่นยังขยายตัวได้ดี อาทิ อินเดีย และฮ่องกง ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศ ถึง 167,418 ล้านบาท