“โคมัตสุ” ชี้ตลาดเครื่องจักรกลหนักไทยปี 2018 ไม่กระเตื้องหลังภาคการก่อสร้างชะลอตัวแม้ว่าแน้วโน้มเศรษฐกิจจะเติบโต เผยข่าวการเลือกตั้งปีหน้าส่งผลผู้ประกอบการรอความชัดเจนโครงการก่อสร้างต่างๆ
นายประณิธาน พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลล์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากจบไตรมาสแรกของปี 2018 ตัวเลขยอดขายตลาดเครื่องจักรกลหนักยังคงทรงตัว เนื่องจากการลงทุนในภาคการก่อสร้างของภาครัฐและเอกชนชะลอตัว แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ตามการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตประมาณ 3.9% และเติบโตต่อเนื่องในปี 2562
“แม้ว่าหลายฝ่ายจะคาดการณ์ว่าปีนี้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโตขึ้น แต่ในธุรกิจของการก่อสร้างนั้นไม่ได้ เป็นไปตามภาพรวมของเศรษฐกิจ มีการชะลอตัวการลงทุนในภาคของการก่อสร้าง ประกอบกับการประกาศเลือกตั้งในปีหน้า ทำให้อาจจะมีความไม่ชัดเจนในด้านการลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ลงทุนยังชะลอการตัดสินใจการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนจากนโยบายของภาครัฐซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องจักรกลหนักโดยตรง ทำให้คาดการณ์ว่า ในปีนี้ธุรกิจจะทรงตัวหรือใกล้เคียงกับปีที่แล้ว”นายประณิธานกล่าว
นายประณิธาน กล่าวว่าภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลหนักในปี 2560 ที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวมอยู่ประมาณ 14,500 ล้านบาท ส่วนโคมัตสุ มียอดขายเป็นมูลค่าอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 25.7 % และในปี 2561 ทางโคมัตสุ ตั้งเป้ายอดขายว่าจะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาช่องทางใหม่ในการให้บริการแก่ลูกค้า โดยนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าของเรา ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ขยายและเปิดศูนย์บริการไปในเชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ และศูนย์แห่งใหม่ที่จังหวัดมุกดาหาร
“ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีคู่แข่งหน้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเครื่องจักรกลมากขึ้น แต่เราเชื่อมั่นว่าเมื่อเทียบคุณภาพสินค้าและบริการของเราที่มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศแล้วนั้น รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เครื่องจักร เราจะยังรักษาฐานลูกค้าของเราไว้ได้ ควบคู่กับการขยายกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นภายในปีนี้อีกด้วย และเราได้มีการปรับแผนการตลาด รวมถึงกิจกรรมสนับสนุนส่งเสริมการขายของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น” นายประณิธาน กล่าว