นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรของโรงงานอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีในช่วงเดือนตุลาคม 2560-กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้ประกอบการยื่นจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 652 ราย จำนวนเครื่องจักร 4,537 เครื่อง มูลค่าเครื่องจักรที่จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ 94,166 ล้านบาท และวงเงินจำนองเครื่องจักร 56,500 ล้านบาท หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาพบว่าจำนวนผู้ประกอบการที่ยื่นจดทะเบียนกรรมสิทธิ์สูงขึ้นกว่า 23% จากเดิมมีจำนวน 527 ราย เครื่องจักร 2,772 เครื่อง
กลุ่มอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ 184 ราย จำนวนเครื่องจักร 894 เครื่อง อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพลาสติก 91 ราย จำนวนเครื่องจักร 400 เครื่อง อุตสาหกรรมการพิมพ์ 70 ราย จำนวนเครื่อง 113 เครื่อง อุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า จำนวน 33 ราย เครื่องจักร 369 เครื่อง และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากอโลหะอื่นจำนวน 25 ราย เครื่องจักร 52 เครื่อง การปรับตัวที่ดีขึ้นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการขยายตัวของภาคการผลิตที่จะส่งผลให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศที่สูงขึ้นในลำดับต่อไป
สำหรับในปี 2561 กรอ.ยังคงดำเนิน “โครงการเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” ด้วยกิจกรรมแปลงเครื่องจักรเป็นทุนและปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการประกอบกิจการโดยยังมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการได้มีการใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงมีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการตลาด ลดต้นทุนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
ผู้ประกอบการที่นำเครื่องจักรภายในโรงงานเข้ามาจดทะเบียนกรรมสิทธิ์กับกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อนำเอกสารการจดทะเบียน เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันจะได้รับสิทธิประโยชน์ 4 ด้าน คือ1.สิทธิพิเศษเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงิน 18 แห่ง ผู้ประกอบการจะได้รับวงเงินกู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท สามารถกู้ได้สูงสุดถึง 90% ของใบสั่งซื้อเครื่องจักร ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ผ่อนได้นาน 7 ปี ปลอดชำระการคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
2.เงินทุนหมุนเวียน โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องนำเครื่องจักรเดิมมาจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อ จากสถาบันการเงิน เพื่อนำเงินทุนไปหมุนเวียนในกิจการหรือซื้อเครื่องจักรใหม่ โดยเครื่องจักรที่ใช้เป็นหลักทรัพย์จะได้รับเงินในการปล่อยกู้ประมาณ 1 ล้านบาท/เครื่อง
3.ได้รับการยกเว้นภาษี ผู้ประกอบการจะได้ยกเว้นอากรขาเข้าของเครื่องจักร และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็นสัดส่วน 50% ของเงินทุนโดยไม่รวมค่าที่ดิน และทุนหมุนเวียนในการปรับปรุง
4.สิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ การยื่นคำขอจดทะเบียน ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จะมีความรวดเร็วภายใน 3 วัน จัดสัมมนาให้ความรู้ ฯลฯ
ขณะนี้กรอ.อยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศร่างกฎกระทรวง 3 ฉบับ ว่าด้วยอนุญาตให้เอกชน (เติร์ดปาร์ตี้) เข้ามาช่วยตรวจสอบเครื่องจักรแทนพนักงานเจ้าหน้าที่ หากกฎหมายพร้อมประกาศใช้ คาดว่าจะมีวงเงินจำนองเครื่องจักรเพิ่มเป็น 335,910 ล้านบาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 75% จากมูลค่าการจดทะเบียนเครื่องจักรในปัจจุบัน โดยยังคาดว่า ในปี 2561 จะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอียื่นขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรอีกไม่น้อยกว่า 1,500 ราย