นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.)เปิดเผยว่าการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการในเดือนมกราคม-ธันวาคม 2560 มีทั้งสิ้น 5,007 โรงงาน ลดลง 4.66% จากช่วงเดียวกันในปี 2559 ที่มีอยู่ 5,252 โรงงาน ขณะที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่4.93 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.28% จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่อยู่ที่ 4.82 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดกิจการใหม่ 4,124 โรงงาน ลดลง 0.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอยู่ 4,366 โรงงานขณะที่มูลค่าการลงทุน 3.07 แสนล้านบาท ลดลง 1.28% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 3.11 แสนล้านบาท ส่วนการขยายกิจการมี 883 โรงงานลดลง0.33% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 886 โรงงาน ขณะที่มูลค่าการลงทุน 1.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.82% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 1.70 แสนล้านบาท
อุตสาหกรรมที่มีจำนวนเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการที่มีมูลค่ามากที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม ปี 2560 ได้แก่อุตฯอาหาร 5.76 หมื่นล้านบาท ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ มูลค่าการลงทุน 4.77 หมื่นล้านบาท เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์มูลค่าการลงทุน 3.54 หมื่นล้านบาท อุตฯผลิตโลหะขั้นมูลฐาน 2.42 หมื่นล้านบาท อุตฯผลิตภัณฑ์โลหะ 2.33 หมื่นล้านบาท
นายมงคล กล่าวว่าการลงทุนของภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นตามเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปีนี้เป็นไปตามคาดที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท คาดว่าในปี 2561 มูลค่าการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน(รง.4)จะอยู่ประมาณ 5-6 แสนล้านบาท จำนวนโรงงานอยู่ที่ 5,000-6,000 โรงงาน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% ต่อปี การเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชัดเจนของร่างพ.ร.บ.อีอีซีรวมทั้งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติด้วย
สำหรับการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการในเดือนธันวาคม 2560 มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 292 โรงงาน ลดลง 43.84 % จากช่วงเดียวกันในปี 2559 ที่มีอยู่ที่ 520 โรงงาน ขณะที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 1.83 หมื่นล้านบาท ลดลง 72.14% จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่อยู่ที่ 6.57 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดกิจการใหม่ 257 โรงงานลดลง 40.78% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 434 โรงงานขณะที่มูลค่าการลงทุน 1.16 หมื่นล้านบาท ลดลง 15.94% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 1.38 หมื่นล้านบาท ส่วนการขยายกิจการมีจำนวน 35 โรงงานลดลง 59.30% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 86 โรงงาน ขณะที่มูลค่าการลงทุน 6.75 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.14 %เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 6.42 พันล้านบาท
การขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการในปี 2560 (มกราคม-ธันวาคม 2560) แบ่งเป็น 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (เอสเคิร์ฟ) จำนวน 1,455 โรงงาน เงินลงทุน 1.63 แสนล้านบาท โดยพบว่า อุตฯแปรรูปอาหารมีการขอใบอนุญาตมากที่สุด 951 โรงงาน เงินลงทุน 7.35 หมื่นล้านบาท รองลงมา อุตฯอิเล็กทรอนิกส์ 172 โรงงาน เงินลงทุน 4.17 หมื่นล้านบาท อุตฯยานยนต์ 108 โรงงาน เงินลงทุน 3.54 หมื่นล้านบาท อุตฯหุ่นยนต์และแขนกล 85 โรงงาน เงินลงทุน 4.72 พันล้านบาท อุตฯเกษตรเทคโนชีวภาพ 56 โรงงาน เงินลงทุน 2.95 พันล้านบาท ตามลำดับ